MovinkPad Pro 14 รุ่นใหม่นี้ต่อยอดจาก
MovinkPad 11 โดยมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ประสิทธิภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบพลังและความยืดหยุ่นให้แก่ผู้สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - 1 ตุลาคม 2025 - วันนี้
Wacom ประกาศเปิดตัว Wacom MovinkPad Pro 14 ขั้นถัดไปของตระกูล Portable Creative Pad ที่มอบพลังและความยืดหยุ่นที่เหนือกว่า พร้อมมอบประสบการณ์การสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบในอุปกรณ์เดียว

MovinkPad Pro 14 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้สร้างสรรค์ที่ต้องการยกระดับผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพหรือผู้ที่ทำงานอยู่ในระดับนั้นแล้ว 

หน้าจอและประสิทธิภาพของปากกาที่มอบประสบการณ์สร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยม

หน้าจอ OLED ขนาด
14 นิ้ว ความละเอียด
2880 × 1800 ครอบคลุมมาตรฐานสี DCI-P3 (CIE1931) (typ) และ sRGB (CIE1931) (typ) เต็ม
100% พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz มอบรายละเอียดคมชัดและการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลสำหรับงานวาดภาพและงานออกแบบ ด้วย Wacom Premium Textured Glass ที่ผ่านการเคลือบผิวพิเศษเพื่อลดแสงสะท้อน ลดการสะท้อนซ้อน และป้องกันรอยนิ้ว หน้าจอจึงช่วยลดสิ่งรบกวน ขณะที่การยึดเกาะระหว่างชั้นจอโดยตรงช่วยลดอาการพารัลแลกซ์ เพื่อให้ได้สัมผัสเสมือนใช้ปากกาเขียนบนกระดาษจริง
MovinkPad Pro 14 มาพร้อมกับ Wacom Pro Pen 3 แบบไม่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งได้รับความไว้วางใจในด้านความแม่นยำและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติในการวาดเขียน

เวิร์กโฟลว์สร้างสรรค์ที่ยกระดับให้ดียิ่งขึ้น

MovinkPad Pro 14 ยังคงฟังก์ชัน Quick Drawing ที่เปิดตัวครั้งแรกใน
MovinkPad 11 ไว้ดังเดิม เพียงแตะและกดปากกาเบา ๆ เครื่องก็พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้สร้างสรรค์บันทึกไอเดียได้ทันที

Wacom Canvas เวอร์ชันอัปเกรดเพิ่มลูกเล่นของรูปแบบปากกาและการซูมด้วยมัลติทัช ขณะที่ Wacom Shelf ใหม่ช่วยให้การดูและจัดการไฟล์สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถโอนย้ายโครงการไปยัง Clip Studio Paint ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยมาพร้อมสิทธิ์ใช้งาน DEBUT เป็นเวลาหนึ่งปี และสิทธิ์ใช้งาน EX เป็นเวลาสามเดือน เพื่อเข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์ระดับสูง

อุปกรณ์นี้ยังเปิดตัว Wacom Lab แอปพลิเคชันสำหรับทดลองใช้งานฟีเจอร์ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ Instant Pen Display Mode ที่ให้ MovinkPad Pro 14 เชื่อมต่อกับ
PC หรือ Mac ได้ทั้งแบบมีสายผ่าน USB-C หรือแบบไร้สาย เพื่อใช้งานเป็น Pen Display แบบดั้งเดิม คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้สร้างสรรค์ได้ทั้งอิสระจากอุปกรณ์ครบวงจร และความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับเวิร์กโฟลว์บนเดสก์ท็อปเมื่อจำเป็น

ประสิทธิภาพและความคล่องตัว

MovinkPad Pro 14 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 15 และขับเคลื่อนด้วย
Snapdragon® 8s Gen 3 SoC ที่มี
CPU แบบแปดคอร์ มาพร้อม
RAM ขนาด 12GB และพื้นที่จัดเก็บ 256GB รองรับความสามารถในการทำงานระดับพรีเมียมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อุปกรณ์นี้สามารถรองรับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนเกินกว่าการวาดภาพ เช่น การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และแอนิเมชัน
แบตเตอรี่ความจุ 10,000mAh ตัวเครื่องบางเพียง 5.9 มม. และมีน้ำหนัก
699 กรัม ทำให้พกพาได้สะดวกสำหรับการสร้างสรรค์ตลอดทั้งวัน

"การเปิดตัว
MovinkPad 11 ในครั้งนี้ เราได้สร้างหมวดหมู่ใหม่ของ Portable Creative Pad สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์" คุณโคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่าย Creative Experience Unit ของ Wacom กล่าว "MovinkPad Pro 14 รุ่นใหม่นี้ต่อยอดแนวคิดนั้นไปอีกขั้น โดยมอบคุณภาพหน้าจอ ความแม่นยำของปากกา และตัวเลือกเวิร์กโฟลว์ที่ทั้งผู้สร้างสรรค์มือใหม่และมืออาชีพต่างคาดหวัง อุปกรณ์นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบประสบการณ์สร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้สร้างสรรค์จดจ่อกับงานได้อย่างเต็มที่"

ปรับแต่งการใช้งานด้วยปากกาและอุปกรณ์เสริม

นอกจาก Pro Pen 3 ที่มีมาให้แล้ว MovinkPad Pro 14 ยังรองรับปากกาดิจิทัลจากแบรนด์เครื่องเขียนต่าง ๆ อย่าง
LAMY, STAEDTLER และ Dr. Grip ด้วย
นอกจากนี้ยังมีฝาปิดเสริมที่สามารถติดแม่เหล็กเพื่อปกป้องหน้าจอได้

การวางจำหน่าย

Wacom MovinkPad Pro 14 จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผ่านทาง Wacom eStore และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วโลก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: <a href="https://www.wacom.com/products/wacom-movinkpad-pro-14">https://www.wacom.com/products/wacom-movinkpad-pro-14</a>

MovinkPad Pro 14 รุ่นใหม่นี้ต่อยอดจาก
MovinkPad 11 โดยมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ประสิทธิภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบพลังและความยืดหยุ่นให้แก่ผู้สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - 1 ตุลาคม 2025 - วันนี้
Wacom ประกาศเปิดตัว Wacom MovinkPad Pro 14 ขั้นถัดไปของตระกูล Portable Creative Pad ที่มอบพลังและความยืดหยุ่นที่เหนือกว่า พร้อมมอบประสบการณ์การสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบในอุปกรณ์เดียวMovinkPad Pro 14 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้สร้างสรรค์ที่ต้องการยกระดับผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพหรือผู้ที่ทำงานอยู่ในระดับนั้นแล้ว <img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/d52e8d3d-1e66-4730-dd93-377530fce900/public" alt="Image" />หน้าจอและประสิทธิภาพของปากกาที่มอบประสบการณ์สร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยมหน้าจอ OLED ขนาด
14 นิ้ว ความละเอียด
2880 × 1800 ครอบคลุมมาตรฐานสี DCI-P3 (CIE1931) (typ) และ sRGB (CIE1931) (typ) เต็ม
100% พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz มอบรายละเอียดคมชัดและการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลสำหรับงานวาดภาพและงานออกแบบ ด้วย Wacom Premium Textured Glass ที่ผ่านการเคลือบผิวพิเศษเพื่อลดแสงสะท้อน ลดการสะท้อนซ้อน และป้องกันรอยนิ้ว หน้าจอจึงช่วยลดสิ่งรบกวน ขณะที่การยึดเกาะระหว่างชั้นจอโดยตรงช่วยลดอาการพารัลแลกซ์ เพื่อให้ได้สัมผัสเสมือนใช้ปากกาเขียนบนกระดาษจริง
MovinkPad Pro 14 มาพร้อมกับ Wacom Pro Pen 3 แบบไม่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งได้รับความไว้วางใจในด้านความแม่นยำและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติในการวาดเขียน<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/5e835d3e-6f8f-4319-6c5c-71e2e5d8d800/public" alt="Image" />เวิร์กโฟลว์สร้างสรรค์ที่ยกระดับให้ดียิ่งขึ้นMovinkPad Pro 14 ยังคงฟังก์ชัน Quick Drawing ที่เปิดตัวครั้งแรกใน
MovinkPad 11 ไว้ดังเดิม เพียงแตะและกดปากกาเบา ๆ เครื่องก็พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้สร้างสรรค์บันทึกไอเดียได้ทันทีWacom Canvas เวอร์ชันอัปเกรดเพิ่มลูกเล่นของรูปแบบปากกาและการซูมด้วยมัลติทัช ขณะที่ Wacom Shelf ใหม่ช่วยให้การดูและจัดการไฟล์สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถโอนย้ายโครงการไปยัง Clip Studio Paint ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยมาพร้อมสิทธิ์ใช้งาน DEBUT เป็นเวลาหนึ่งปี และสิทธิ์ใช้งาน EX เป็นเวลาสามเดือน เพื่อเข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์ระดับสูงอุปกรณ์นี้ยังเปิดตัว Wacom Lab แอปพลิเคชันสำหรับทดลองใช้งานฟีเจอร์ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ Instant Pen Display Mode ที่ให้ MovinkPad Pro 14 เชื่อมต่อกับ
PC หรือ Mac ได้ทั้งแบบมีสายผ่าน USB-C หรือแบบไร้สาย เพื่อใช้งานเป็น Pen Display แบบดั้งเดิม คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้สร้างสรรค์ได้ทั้งอิสระจากอุปกรณ์ครบวงจร และความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับเวิร์กโฟลว์บนเดสก์ท็อปเมื่อจำเป็นประสิทธิภาพและความคล่องตัวMovinkPad Pro 14 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 15 และขับเคลื่อนด้วย
Snapdragon® 8s Gen 3 SoC ที่มี
CPU แบบแปดคอร์ มาพร้อม
RAM ขนาด 12GB และพื้นที่จัดเก็บ 256GB รองรับความสามารถในการทำงานระดับพรีเมียมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อุปกรณ์นี้สามารถรองรับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนเกินกว่าการวาดภาพ เช่น การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และแอนิเมชัน
แบตเตอรี่ความจุ 10,000mAh ตัวเครื่องบางเพียง 5.9 มม. และมีน้ำหนัก
699 กรัม ทำให้พกพาได้สะดวกสำหรับการสร้างสรรค์ตลอดทั้งวัน"การเปิดตัว
MovinkPad 11 ในครั้งนี้ เราได้สร้างหมวดหมู่ใหม่ของ Portable Creative Pad สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์" คุณโคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่าย Creative Experience Unit ของ Wacom กล่าว "MovinkPad Pro 14 รุ่นใหม่นี้ต่อยอดแนวคิดนั้นไปอีกขั้น โดยมอบคุณภาพหน้าจอ ความแม่นยำของปากกา และตัวเลือกเวิร์กโฟลว์ที่ทั้งผู้สร้างสรรค์มือใหม่และมืออาชีพต่างคาดหวัง อุปกรณ์นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบประสบการณ์สร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้สร้างสรรค์จดจ่อกับงานได้อย่างเต็มที่"ปรับแต่งการใช้งานด้วยปากกาและอุปกรณ์เสริมนอกจาก Pro Pen 3 ที่มีมาให้แล้ว MovinkPad Pro 14 ยังรองรับปากกาดิจิทัลจากแบรนด์เครื่องเขียนต่าง ๆ อย่าง
LAMY, STAEDTLER และ Dr. Grip ด้วย
นอกจากนี้ยังมีฝาปิดเสริมที่สามารถติดแม่เหล็กเพื่อปกป้องหน้าจอได้การวางจำหน่ายWacom MovinkPad Pro 14 จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผ่านทาง Wacom eStore และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วโลกศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: <a href="https://www.wacom.com/products/wacom-movinkpad-pro-14">https://www.wacom.com/products/wacom-movinkpad-pro-14</a>

Mobile device

Electronic components / Semiconductors / Electrical equipment

Goods and services

Hardware / Electronics / Peripherals

Wacom เปิดตัว MovinkPad Pro 14 ขั้นถัดไปของตระกูล Portable Creative Pad 

ณ กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น – วันที่
17 กันยายน 2025 – วันนี้
Wacom ประกาศเปิดตัว Wacom One 14 จอแสดงผลพร้อมปากการุ่นล่าสุดในซีรีส์ Wacom One ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นก้าวแรกที่น่าดึงดูดสู่โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ดิจิทัล โดยสามารถเชื่อมต่อ Wacom One 14 กับ PC, Mac หรือ Chromebook ได้อย่างง่ายดาย มอบสมดุลระหว่างความสะดวก ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าให้กับผู้เริ่มต้นด้านงานสร้างสรรค์
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักวาดมือใหม่ ผู้ที่ทำงานอดิเรกด้านศิลปะ และผู้ที่ชื่นชอบการคิดเชิงภาพ ไม่ว่าจะใช้ในการวาดภาพ ร่างแบบ ตกแต่งภาพ
เขียนคำอธิบายประกอบ หรือค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทางด้านความคิดสร้างสรรค

เริ่มต้นอย่างมั่นใจกับงานสร้างสรรค์ดิจิทัล

Wacom One 14 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 14 นิ้ว
ความละเอียด Full HD เคลือบผิวกันแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ เพื่อลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อไปกับงานสร้างสรรค์ของตนได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังใช้เทคโนโลยีการยึดติดแบบตรง เพื่อมอบสัมผัสการวาดที่เป็นธรรมชาติราวกับเขียนบนกระดาษ หน้าจอขนาดใหญ่ช่วยให้มือใหม่ด้านงานสร้างสรรค์มีพื้นที่มากพอสำหรับการวาดภาพ ร่างแบบ และวาดภาพประกอบ โดยยังคงความกะทัดรัดและด้วยน้ำหนักเพียง
750 กรัม ทำให้พกพาสะดวก ติดตั้งง่าย หน้าจอยังแสดงผลสีที่แม่นยำและเชื่อถือได้ เหมาะสำหรับงานศิลปะ การตกแต่งภาพ และงานสำหรับการใช้งานทั่วไป

เทคโนโลยีปากกาของ Wacom ได้รับการพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี มอบประสบการณ์การใช้งานที่นุ่มนวลและเชื่อถือได้ ด้วยการลดความคลาดเคลื่อนระหว่างตำแหน่งปากกาและภาพ
ความหน่วงต่ำ และจดจำการเอียงของปากกาอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้มือใหม่ด้านงานสร้างสรรค์ดิจิทัลเพลิดเพลินไปกับการวาดภาพที่เป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน ปากกา Wacom One Standard Pen มาพร้อมกับด้ามจับไร้แบตเตอรี่ น้ำหนักเบา พร้อมปุ่มที่คุณปรับแต่งเองได้สองตำแหน่ง นอกจากนี้ Wacom One 14 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกาจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น
Staedtler, LAMY และ Dr. Grip เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกจับปากที่ถนัดมือและสไตล์ที่ตรงใจได้อย่างอิสระ

เชื่อมต่อสะดวกด้วยสายเพียงเส้นเดียว

ติดตั้งง่าย ๆ ด้วยสาย USB-C เพียงเส้นเดียว
ในกรณีที่คอมพิวเตอร์รองรับ DisplayPort Alt Mode หรือ Thunderbolt 3/4 ซึ่งสามารถส่งกำลังไฟ ภาพ และข้อมูลได้ในสายเดียว
ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีพอร์ต USB-C รองรับจะสามารถใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์เสริม Wacom
Converter ซึ่งจะมาช่วยการในเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI, USB-C และช่องจ่ายไฟ โดย Wacom One 14 จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows
10 ขึ้นไป, macOS 13 ขึ้นไป และ Chromebook

ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

Wacom One 14 มาพร้อมชุดแอปพลิเคชันสร้างสรรค์หลากหลายประเภท ให้ผู้ใช้เริ่มต้นสร้างผลงานได้ทันที โดยมี Clip Studio Paint Pro, Magma และ
Concepts รองรับงานวาดภาพและการ์ตูน Passpartout 2 เพิ่มประสบการณ์ทางด้านศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟที่สนุกสนาน Foxit PDF Editor รองรับการใช้งานด้านการเรียน งานเอกสาร และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ส่วน Skillshare เปิดโอกาสให้เข้าถึงบทเรียนออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านงานสร้างสรรค์ เครื่องมือทั้งหมดนี้จะช่วยให้มือใหม่และผู้ที่ทำงานอดิเรกด้านศิลปะสามารถสำรวจและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระตั้งแต่วันแรกที่ใช้งาน

“Wacom One 14 ได้รับการออกแบบมาสำหรับก้าวแรกของผู้ที่กำลังจะเข้าสู่โลกของการวาดภาพและการสร้างภาพประกอบในแบบดิจิทัล” โคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่าย Creative Experience ของ Wacom กล่าว “ด้วยการผสานหน้าจอขนาดใหญ่เข้ากับเทคโนโลยีปากกาที่เชื่อถือได้ ในรูปแบบที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นด้านงานสร้างสรรค์ ช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ตั้งแต่วันแรกที่ใช้”

พร้อมวางจำหน่าย

Wacom One 14 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผ่านทาร้านค้าตัวแทนจำหน่าย

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: <a href="https://www.wacom.com/products/pen-displays/wacom-one">https://www.wacom.com/products/pen-displays/wacom-one</a>

ค้นพบพลังแห่งความสร้างสรรค์ในตัวคุณ ด้วยหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ดีไซน์เบาถนัดมือ และประสิทธิภาพการตอบสนองของปากกาที่แม่นยำ Wacom One 14 รุ่นใหม่ พร้อมพาคุณเข้าสู่จุดเริ่มต้นง่ายๆ สู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ดิจิทัล ณ กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น – วันที่
17 กันยายน 2025 – วันนี้
Wacom ประกาศเปิดตัว Wacom One 14 จอแสดงผลพร้อมปากการุ่นล่าสุดในซีรีส์ Wacom One ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นก้าวแรกที่น่าดึงดูดสู่โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ดิจิทัล โดยสามารถเชื่อมต่อ Wacom One 14 กับ PC, Mac หรือ Chromebook ได้อย่างง่ายดาย มอบสมดุลระหว่างความสะดวก ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าให้กับผู้เริ่มต้นด้านงานสร้างสรรค์
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักวาดมือใหม่ ผู้ที่ทำงานอดิเรกด้านศิลปะ และผู้ที่ชื่นชอบการคิดเชิงภาพ ไม่ว่าจะใช้ในการวาดภาพ ร่างแบบ ตกแต่งภาพ
เขียนคำอธิบายประกอบ หรือค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทางด้านความคิดสร้างสรรค<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/ecef5862-2b9c-427c-4e02-4630aa690800/public" alt="Image" />เริ่มต้นอย่างมั่นใจกับงานสร้างสรรค์ดิจิทัลWacom One 14 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 14 นิ้ว
ความละเอียด Full HD เคลือบผิวกันแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ เพื่อลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อไปกับงานสร้างสรรค์ของตนได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังใช้เทคโนโลยีการยึดติดแบบตรง เพื่อมอบสัมผัสการวาดที่เป็นธรรมชาติราวกับเขียนบนกระดาษ หน้าจอขนาดใหญ่ช่วยให้มือใหม่ด้านงานสร้างสรรค์มีพื้นที่มากพอสำหรับการวาดภาพ ร่างแบบ และวาดภาพประกอบ โดยยังคงความกะทัดรัดและด้วยน้ำหนักเพียง
750 กรัม ทำให้พกพาสะดวก ติดตั้งง่าย หน้าจอยังแสดงผลสีที่แม่นยำและเชื่อถือได้ เหมาะสำหรับงานศิลปะ การตกแต่งภาพ และงานสำหรับการใช้งานทั่วไปเทคโนโลยีปากกาของ Wacom ได้รับการพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี มอบประสบการณ์การใช้งานที่นุ่มนวลและเชื่อถือได้ ด้วยการลดความคลาดเคลื่อนระหว่างตำแหน่งปากกาและภาพ
ความหน่วงต่ำ และจดจำการเอียงของปากกาอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้มือใหม่ด้านงานสร้างสรรค์ดิจิทัลเพลิดเพลินไปกับการวาดภาพที่เป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน ปากกา Wacom One Standard Pen มาพร้อมกับด้ามจับไร้แบตเตอรี่ น้ำหนักเบา พร้อมปุ่มที่คุณปรับแต่งเองได้สองตำแหน่ง นอกจากนี้ Wacom One 14 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกาจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น
Staedtler, LAMY และ Dr. Grip เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกจับปากที่ถนัดมือและสไตล์ที่ตรงใจได้อย่างอิสระ<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/211a1ac5-625b-4702-f94b-51774fc7dc00/public" alt="Image" />เชื่อมต่อสะดวกด้วยสายเพียงเส้นเดียวติดตั้งง่าย ๆ ด้วยสาย USB-C เพียงเส้นเดียว
ในกรณีที่คอมพิวเตอร์รองรับ DisplayPort Alt Mode หรือ Thunderbolt 3/4 ซึ่งสามารถส่งกำลังไฟ ภาพ และข้อมูลได้ในสายเดียว
ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีพอร์ต USB-C รองรับจะสามารถใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์เสริม Wacom
Converter ซึ่งจะมาช่วยการในเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI, USB-C และช่องจ่ายไฟ โดย Wacom One 14 จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows
10 ขึ้นไป, macOS 13 ขึ้นไป และ Chromebookปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณWacom One 14 มาพร้อมชุดแอปพลิเคชันสร้างสรรค์หลากหลายประเภท ให้ผู้ใช้เริ่มต้นสร้างผลงานได้ทันที โดยมี Clip Studio Paint Pro, Magma และ
Concepts รองรับงานวาดภาพและการ์ตูน Passpartout 2 เพิ่มประสบการณ์ทางด้านศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟที่สนุกสนาน Foxit PDF Editor รองรับการใช้งานด้านการเรียน งานเอกสาร และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ส่วน Skillshare เปิดโอกาสให้เข้าถึงบทเรียนออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านงานสร้างสรรค์ เครื่องมือทั้งหมดนี้จะช่วยให้มือใหม่และผู้ที่ทำงานอดิเรกด้านศิลปะสามารถสำรวจและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระตั้งแต่วันแรกที่ใช้งาน“Wacom One 14 ได้รับการออกแบบมาสำหรับก้าวแรกของผู้ที่กำลังจะเข้าสู่โลกของการวาดภาพและการสร้างภาพประกอบในแบบดิจิทัล” โคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่าย Creative Experience ของ Wacom กล่าว “ด้วยการผสานหน้าจอขนาดใหญ่เข้ากับเทคโนโลยีปากกาที่เชื่อถือได้ ในรูปแบบที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นด้านงานสร้างสรรค์ ช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ตั้งแต่วันแรกที่ใช้”พร้อมวางจำหน่ายWacom One 14 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผ่านทาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: <a href="https://www.wacom.com/products/pen-displays/wacom-one">https://www.wacom.com/products/pen-displays/wacom-one</a>

ค้นพบพลังแห่งความสร้างสรรค์ในตัวคุณ ด้วยหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ดีไซน์เบาถนัดมือ และประสิทธิภาพการตอบสนองของปากกาที่แม่นยำ Wacom One 14 รุ่นใหม่ พร้อมพาคุณเข้าสู่จุดเริ่มต้นง่ายๆ สู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ดิจิทัล

จุดเริ่มต้นง่ายๆ สู่โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ดิจิทัล — Wacom เปิดตัว Wacom One 14 Pen Display รุ่นใหม่ 

โตเกียว – 17 กรกฎาคม
2025 – วันนี้ Wacom เปิดตัว
Wacom MovinkPad 11 แท็บเล็ตเพื่อการสร้างสรรค์แบบครบวงจร ยกระดับการวาดภาพให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะวาดเล่นเพลิน ๆ หรือเก็บแรงบันดาลใจที่ผุดขึ้นมาได้ในทันที
อุปกรณ์นี้ก็พร้อมให้คุณเริ่มวาดได้ทันทีอย่างง่ายดาย
ออกแบบมาเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ทันที
ใช้งานได้ทันทีที่คุณหยิบปากกาขึ้นมา ด้วยระบบ Android 14 ที่คุ้นเคยและใช้งานง่าย

ไม่มีขีดจำกัด วาดเลย

Wacom MovinkPad 11 ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การวาดภาพดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายและสนุกตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งาน ครบจบในเครื่องเดียว ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ต้องตั้งค่า เพียงแค่มีปากกาและหน้าจอดิจิทัล ก็ เริ่มวาดได้ทันที ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มาพร้อม จอแสดงผลมัลติทัชขนาด 11.45 นิ้ว ที่มี กระจกเคลือบลดแสงสะท้อน ช่วยให้คุณมีสมาธิกับการสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่
มาพร้อมกับ Wacom Pro Pen 3 ปากกามืออาชีพที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานสายสร้างสรรค์ทั่วโลก
โดดเด่นด้วยความแม่นยำสูงและให้สัมผัสการวาดที่เป็นธรรมชาติ ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ได้ทันที เพียงแตะและกดเบา ๆ ที่ปลายปากกา

ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่โรงเรียน ในคาเฟ่ หรือระหว่างการเดินทาง Wacom MovinkPad 11 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของทุกโมเมนต์แห่งจินตนาการในชีวิตประจำวัน

“Wacom MovinkPad 11 ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่หยุดวาดไม่ได้จริง ๆ” โคจิ
ยาโนะ รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจแบรนด์ Wacom กล่าว “ไม่ว่าคุณจะชอบวาดเล่นระหว่างเรียน หรือกำลังเปลี่ยนจากการวาดบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
แท็บเล็ตสร้างสรรค์พกพานี้จะทำให้การวาดง่ายขึ้นและสนุกมากยิ่งขึ้น และนี่แค่เริ่มต้น เตรียมพบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะตามมาในซีรีส์แท็บเล็ตสร้างสรรค์แบบพกพา”

แอปสร้างสรรค์ที่มือใหม่ต้องลอง

แอป Wacom Canvas ที่มาพร้อมเครื่อง รองรับการสเก็ตช์แบบอิสระและงานวาดภาพเบาๆ
ได้อย่างสะดวก เริ่มต้นการสร้างสรรค์ได้ทันที ด้วย Clip Studio Paint DEBUT รุ่นเริ่มต้น พร้อมสิทธิ์ใช้งาน 2 ปี แปรงกว่า 40,000 แบบ
และเครื่องมือครบครันสำหรับการ์ตูน 3D และแอนิเมชัน

เริ่มวาดได้ทันที ด้วยฟังก์ชันวาดภาพที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงแค่แตะและกดปากกาบนหน้าจอค้างไว้ ก็เปิดแอป Wacom Canvas และเริ่มสเก็ตช์ได้ทันที แตะครั้งเดียวเพื่อเข้าสู่ Clip Studio Paint และเก็บผลงานของคุณไว้ใน Wacom
Shelf โดยอัตโนมัติ

“Wacom MovinkPad 11 พร้อมเป็นแคนวาสดิจิทัลที่ใช้งานได้อย่างสบายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักวาดมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสำรวจโลกของศิลปะดิจิทัล หรือผู้ที่ทำงานสายสร้างสรรค์อย่างจริงจัง”
เท็ตสึยะ โคบายาชิ
กรรมการบริหารของ Celsys กล่าว “เมื่อใช้งานร่วมกับ Clip Studio Paint สัมผัสกับประสบการณ์การสร้างสรรค์ที่ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และพร้อมไปกับคุณทุกที่”

&nbsp;ปรับแต่งการใช้งานในแบบของคุณด้วยปากกาและอุปกรณ์เสริม

รองรับทั้ง Wacom Pro Pen 3 และปากกาดิจิทัลจากแบรนด์เครื่องเขียนชั้นนำอย่าง Dr. Grip, LAMY และ STAEDTLER ให้คุณเลือกใช้งานตามสไตล์ที่เป็นตัวเองได้อย่างอิสระ มีเคสสำหรับ Wacom MovinkPad 11 ที่มาพร้อมขาตั้งในตัว ออกแบบมาเพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณ และช่วยให้วางใช้งานในมุมที่เหมาะกับการวาดภาพได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

Wacom MovinkPad 11 พร้อมจำหน่ายในเร็วๆนี้ หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรดไปที่: <a href="https://www.wacom.com/products/portable-pad/wacom-movinkpad-11">https://www.wacom.com/products/portable-pad/wacom-movinkpad-11</a>

Wacom MovinkPad 11 คืออุปกรณ์วาดภาพดิจิทัลที่ไม่ใช่แค่แท็บเล็ต แต่คือแรงบันดาลใจที่พกพาได้ ต่างจากแท็บเล็ตที่เน้นความบันเทิงทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้พร้อมเก็บเกี่ยวทุกแรงบันดาลใจในทันที และพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการวาดภาพได้ทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมฟังก์ชันวาดภาพที่รวดเร็ว ให้เวิร์กโฟลว์ที่ไหลลื่น ความคิดสร้างสรรค์ไม่สะดุดตั้งแต่เริ่มต้น โตเกียว – 17 กรกฎาคม
2025 – วันนี้ Wacom เปิดตัว
Wacom MovinkPad 11 แท็บเล็ตเพื่อการสร้างสรรค์แบบครบวงจร ยกระดับการวาดภาพให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะวาดเล่นเพลิน ๆ หรือเก็บแรงบันดาลใจที่ผุดขึ้นมาได้ในทันที
อุปกรณ์นี้ก็พร้อมให้คุณเริ่มวาดได้ทันทีอย่างง่ายดาย
ออกแบบมาเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ทันที
ใช้งานได้ทันทีที่คุณหยิบปากกาขึ้นมา ด้วยระบบ Android 14 ที่คุ้นเคยและใช้งานง่ายไม่มีขีดจำกัด วาดเลยWacom MovinkPad 11 ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การวาดภาพดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายและสนุกตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งาน ครบจบในเครื่องเดียว ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ต้องตั้งค่า เพียงแค่มีปากกาและหน้าจอดิจิทัล ก็ เริ่มวาดได้ทันที ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มาพร้อม จอแสดงผลมัลติทัชขนาด 11.45 นิ้ว ที่มี กระจกเคลือบลดแสงสะท้อน ช่วยให้คุณมีสมาธิกับการสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่
มาพร้อมกับ Wacom Pro Pen 3 ปากกามืออาชีพที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานสายสร้างสรรค์ทั่วโลก
โดดเด่นด้วยความแม่นยำสูงและให้สัมผัสการวาดที่เป็นธรรมชาติ ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ได้ทันที เพียงแตะและกดเบา ๆ ที่ปลายปากกาไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่โรงเรียน ในคาเฟ่ หรือระหว่างการเดินทาง Wacom MovinkPad 11 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของทุกโมเมนต์แห่งจินตนาการในชีวิตประจำวัน“Wacom MovinkPad 11 ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่หยุดวาดไม่ได้จริง ๆ” โคจิ
ยาโนะ รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจแบรนด์ Wacom กล่าว “ไม่ว่าคุณจะชอบวาดเล่นระหว่างเรียน หรือกำลังเปลี่ยนจากการวาดบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
แท็บเล็ตสร้างสรรค์พกพานี้จะทำให้การวาดง่ายขึ้นและสนุกมากยิ่งขึ้น และนี่แค่เริ่มต้น เตรียมพบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะตามมาในซีรีส์แท็บเล็ตสร้างสรรค์แบบพกพา”<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/424d0c92-dad3-468b-6040-c98ccf706900/public" alt="Image" />แอปสร้างสรรค์ที่มือใหม่ต้องลอง แอป Wacom Canvas ที่มาพร้อมเครื่อง รองรับการสเก็ตช์แบบอิสระและงานวาดภาพเบาๆ
ได้อย่างสะดวก เริ่มต้นการสร้างสรรค์ได้ทันที ด้วย Clip Studio Paint DEBUT รุ่นเริ่มต้น พร้อมสิทธิ์ใช้งาน 2 ปี แปรงกว่า 40,000 แบบ
และเครื่องมือครบครันสำหรับการ์ตูน 3D และแอนิเมชันเริ่มวาดได้ทันที ด้วยฟังก์ชันวาดภาพที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงแค่แตะและกดปากกาบนหน้าจอค้างไว้ ก็เปิดแอป Wacom Canvas และเริ่มสเก็ตช์ได้ทันที แตะครั้งเดียวเพื่อเข้าสู่ Clip Studio Paint และเก็บผลงานของคุณไว้ใน Wacom
Shelf โดยอัตโนมัติ“Wacom MovinkPad 11 พร้อมเป็นแคนวาสดิจิทัลที่ใช้งานได้อย่างสบายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักวาดมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสำรวจโลกของศิลปะดิจิทัล หรือผู้ที่ทำงานสายสร้างสรรค์อย่างจริงจัง”
เท็ตสึยะ โคบายาชิ
กรรมการบริหารของ Celsys กล่าว “เมื่อใช้งานร่วมกับ Clip Studio Paint สัมผัสกับประสบการณ์การสร้างสรรค์ที่ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และพร้อมไปกับคุณทุกที่”&nbsp;ปรับแต่งการใช้งานในแบบของคุณด้วยปากกาและอุปกรณ์เสริมรองรับทั้ง Wacom Pro Pen 3 และปากกาดิจิทัลจากแบรนด์เครื่องเขียนชั้นนำอย่าง Dr. Grip, LAMY และ STAEDTLER ให้คุณเลือกใช้งานตามสไตล์ที่เป็นตัวเองได้อย่างอิสระ มีเคสสำหรับ Wacom MovinkPad 11 ที่มาพร้อมขาตั้งในตัว ออกแบบมาเพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณ และช่วยให้วางใช้งานในมุมที่เหมาะกับการวาดภาพได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นWacom MovinkPad 11 พร้อมจำหน่ายในเร็วๆนี้ หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรดไปที่: <a href="https://www.wacom.com/products/portable-pad/wacom-movinkpad-11">https://www.wacom.com/products/portable-pad/wacom-movinkpad-11</a>

Wacom MovinkPad 11 คืออุปกรณ์วาดภาพดิจิทัลที่ไม่ใช่แค่แท็บเล็ต แต่คือแรงบันดาลใจที่พกพาได้ ต่างจากแท็บเล็ตที่เน้นความบันเทิงทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้พร้อมเก็บเกี่ยวทุกแรงบันดาลใจในทันที และพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการวาดภาพได้ทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมฟังก์ชันวาดภาพที่รวดเร็ว ให้เวิร์กโฟลว์ที่ไหลลื่น ความคิดสร้างสรรค์ไม่สะดุดตั้งแต่เริ่มต้น

วาดได้ทุกที่ ทุกเวลา: Wacom MovinkPad 11 จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ  

โตเกียว – 5 มิถุนายน
2025 – วันนี้ Wacom ได้เปิดตัวจอแสดงผลพร้อมปากการุ่นใหม่ Cintiq 16, Cintiq 24 และ
Cintiq 24 touch
เสริมพลังให้กับครีเอเตอร์ได้ก้าวข้ามขีดจำกัด
ด้วยเครื่องมือระดับมืออาชีพสร้างสรรค์ผลงานได้โดยไม่มีข้อจำกัด ผสานเทคโนโลยี Wacom Pro Pen 3 ระดับเรือธง ดีไซน์บางเฉียบ และจอแสดงผลคมชัดที่ผลิตขึ้นเพื่อการทำงานสร้างสรรค์โดยเฉพาะ จอแสดงผลพร้อมปากการุ่นนี้พร้อมพาศิลปินและดีไซเนอร์ก้าวสู่มิติใหม่ และดำดิ่งสู่ไอเดียที่กล้าหาญที่สุด

Koji Yano รองประธานอาวุโสของ Wacom กล่าวว่า "ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกี่ยวกับขีดจำกัด แต่เป็นเรื่องของการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ไม่ธรรมดา" “ผลิตภัณฑ์ Cintiq รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่ยอมจำกัดตัวเอง” ไม่ใช่แค่เครื่องมือ—แต่เป็นประกายไฟที่เปลี่ยน ‘เป็นไปได้มั้ย’ ให้กลายเป็น
‘ต่อไปคืออะไร’”

สัมผัสที่เป็นธรรมชาติด้วย Wacom Pro Pen 3

Wacom Pro Pen 3 มอบประสบการณ์การวาดที่เหนือกว่า พร้อมความแม่นยำระดับมืออาชีพ Cintiq รุ่นใหม่ตอบสนองได้รวดเร็วและลื่นไหล ด้วยอัตราการสุ่มตัวอย่างที่ดีขึ้นและความไวต่อแรงกดที่พัฒนาไปอีกขั้น ให้เส้นสายที่ลื่นไหล ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ ช่วยให้ศิลปินสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์ของตนได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อุปกรณ์เสริมช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งความหนาของด้ามจับ
สมดุลน้ำหนัก และการจัดวางปุ่ม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
อีกหนึ่งตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคือ Wacom Pro Pen 3 Wood
Grip ซึ่งจำหน่ายแยกต่างหาก จุดเด่นอยู่ที่พื้นผิวสัมผัสที่อบอุ่นและมีลวดลาย ให้ความรู้สึกในมือที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสที่เป็นธรรมชาติระหว่างการวาดภาพเป็นเวลานาน

จอแสดงผลที่คมชัดและสบายตาเมื่อได้มอง

Cintiq มีให้เลือก
2 ขนาด คือ
16.0 นิ้ว (ความละเอียด
2560 x 1600) และ 23.8 นิ้ว
(ความละเอียด 2560 x 1440) โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเฉพาะปากกา และรุ่นปากกาพร้อมสัมผัส (เฉพาะขนาด 23.8 นิ้ว) เทคโนโลยีการยึดติดโดยตรงช่วยลดช่องว่างระหว่างปลายปากกาและเคอร์เซอร์ กระจกเคลือบพิเศษป้องกันแสงสะท้อน เพื่อการทำงานที่สบายตาและไม่เมื่อยล้า

ดีไซน์เพรียวบางพร้อมการทำงานไร้เสียง

ดีไซน์เรียบง่ายแต่ล้ำสมัย รองรับการปรับใช้งานได้หลากหลาย ทั้งสองรุ่นบางลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
เช่น Cintiq 24 มีความหนาเพียง 21 มม. ซึ่งบางลงเกือบครึ่งหนึ่งของรุ่นก่อนหน้า 22 นิ้ว ออกแบบให้เข้ากับทุกพื้นที่ทำงานได้ง่ายขึ้น การออกแบบไร้พัดลม ช่วยให้การทำงานเงียบสนิทและให้ผู้ใช้มีสมาธิกับทุกช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ ป้องกันความร้อนสะสม ทำงานต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น

ขาตั้งปรับระดับได้พร้อมการตั้งค่าที่ยืดหยุ่น

Cintiq 24 มาพร้อมกับขาตั้งปรับระดับของ Wacom ช่วยให้การปรับมุมได้อย่างราบรื่นและเงียบ
Cintiq 16 มาพร้อมขาตั้งแบบพับออกได้ และใช้งานร่วมกับขาตั้งเสริมซึ่งจำหน่ายแยกต่างหากได้ด้วย ทั้งสองรุ่นรองรับ VESA (75 x 75 มม.) สามารถใช้งานร่วมกับแขนจับจอภาพของบริษัทอื่นได้

พอร์ตทั้งหมดได้รับการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบที่ด้านหลัง เพื่อให้จัดการสายเคเบิลได้ง่ายขึ้น ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ USB-C และรุ่น 16 นิ้วยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อสายเดี่ยวที่สะดวก พร้อมรองรับการจ่ายไฟด้วย ทั้งสองรุ่นมาพร้อมพอร์ต HDMI และ USB-A เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเชื่อมต่อ

ทุกรุ่นพร้อมกับใบอนุญาตซอฟต์แวร์สร้างสรรค์แบบจำกัดเวลา
ได้แก่ Clip Studio Paint EX และ MASV

พร้อมจำหน่าย

Wacom Cintiq รุ่นใหม่จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนนี้ หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: <a href="https://www.wacom.com/products/wacom-cintiq">https://www.wacom.com/products/wacom-cintiq</a>

Wacom เปิดตัวจอแสดงผลพร้อมปากกา Wacom Cintiq รุ่นใหม่ — Cintiq 16, Cintiq 24 และ Cintiq 24 touch — ซึ่งมาพร้อมประสิทธิภาพระดับมืออาชีพที่ช่วยให้เครื่องมือสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพอยู่ใกล้แค่เอื้อม โดยผสานเทคโนโลยี Pro Pen 3 ของ Wacom ดีไซน์กะทัดรัดและใช้งานได้สะดวกสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ที่พร้อมก้าวไปสู่อีกระดับ โตเกียว – 5 มิถุนายน
2025 – วันนี้ Wacom ได้เปิดตัวจอแสดงผลพร้อมปากการุ่นใหม่ Cintiq 16, Cintiq 24 และ
Cintiq 24 touch
เสริมพลังให้กับครีเอเตอร์ได้ก้าวข้ามขีดจำกัด
ด้วยเครื่องมือระดับมืออาชีพสร้างสรรค์ผลงานได้โดยไม่มีข้อจำกัด ผสานเทคโนโลยี Wacom Pro Pen 3 ระดับเรือธง ดีไซน์บางเฉียบ และจอแสดงผลคมชัดที่ผลิตขึ้นเพื่อการทำงานสร้างสรรค์โดยเฉพาะ จอแสดงผลพร้อมปากการุ่นนี้พร้อมพาศิลปินและดีไซเนอร์ก้าวสู่มิติใหม่ และดำดิ่งสู่ไอเดียที่กล้าหาญที่สุดKoji Yano รองประธานอาวุโสของ Wacom กล่าวว่า "ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกี่ยวกับขีดจำกัด แต่เป็นเรื่องของการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ไม่ธรรมดา" “ผลิตภัณฑ์ Cintiq รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่ยอมจำกัดตัวเอง” ไม่ใช่แค่เครื่องมือ—แต่เป็นประกายไฟที่เปลี่ยน ‘เป็นไปได้มั้ย’ ให้กลายเป็น
‘ต่อไปคืออะไร’”สัมผัสที่เป็นธรรมชาติด้วย Wacom Pro Pen 3Wacom Pro Pen 3 มอบประสบการณ์การวาดที่เหนือกว่า พร้อมความแม่นยำระดับมืออาชีพ Cintiq รุ่นใหม่ตอบสนองได้รวดเร็วและลื่นไหล ด้วยอัตราการสุ่มตัวอย่างที่ดีขึ้นและความไวต่อแรงกดที่พัฒนาไปอีกขั้น ให้เส้นสายที่ลื่นไหล ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ ช่วยให้ศิลปินสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์ของตนได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอุปกรณ์เสริมช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งความหนาของด้ามจับ
สมดุลน้ำหนัก และการจัดวางปุ่ม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
อีกหนึ่งตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคือ Wacom Pro Pen 3 Wood
Grip ซึ่งจำหน่ายแยกต่างหาก จุดเด่นอยู่ที่พื้นผิวสัมผัสที่อบอุ่นและมีลวดลาย ให้ความรู้สึกในมือที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสที่เป็นธรรมชาติระหว่างการวาดภาพเป็นเวลานาน<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/be15cfb9-f913-4acb-9178-7a625a541000/public" alt="Wacom-Pro-Pen3-with-Wood-Grip" />จอแสดงผลที่คมชัดและสบายตาเมื่อได้มองCintiq มีให้เลือก
2 ขนาด คือ
16.0 นิ้ว (ความละเอียด
2560 x 1600) และ 23.8 นิ้ว
(ความละเอียด 2560 x 1440) โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเฉพาะปากกา และรุ่นปากกาพร้อมสัมผัส (เฉพาะขนาด 23.8 นิ้ว) เทคโนโลยีการยึดติดโดยตรงช่วยลดช่องว่างระหว่างปลายปากกาและเคอร์เซอร์ กระจกเคลือบพิเศษป้องกันแสงสะท้อน เพื่อการทำงานที่สบายตาและไม่เมื่อยล้า<img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/af28857b-a5c5-4d04-c129-eb94a826e300/public" alt="Wacom-Cintiq16_In-use" /><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/73963a20-e9cf-4efd-46bb-bd038c73ab00/public" alt="Wacom-Cintiq24_In-use" />ดีไซน์เพรียวบางพร้อมการทำงานไร้เสียงดีไซน์เรียบง่ายแต่ล้ำสมัย รองรับการปรับใช้งานได้หลากหลาย ทั้งสองรุ่นบางลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
เช่น Cintiq 24 มีความหนาเพียง 21 มม. ซึ่งบางลงเกือบครึ่งหนึ่งของรุ่นก่อนหน้า 22 นิ้ว ออกแบบให้เข้ากับทุกพื้นที่ทำงานได้ง่ายขึ้น การออกแบบไร้พัดลม ช่วยให้การทำงานเงียบสนิทและให้ผู้ใช้มีสมาธิกับทุกช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ ป้องกันความร้อนสะสม ทำงานต่อเนื่องได้อย่างราบรื่นขาตั้งปรับระดับได้พร้อมการตั้งค่าที่ยืดหยุ่นCintiq 24 มาพร้อมกับขาตั้งปรับระดับของ Wacom ช่วยให้การปรับมุมได้อย่างราบรื่นและเงียบ
Cintiq 16 มาพร้อมขาตั้งแบบพับออกได้ และใช้งานร่วมกับขาตั้งเสริมซึ่งจำหน่ายแยกต่างหากได้ด้วย ทั้งสองรุ่นรองรับ VESA (75 x 75 มม.) สามารถใช้งานร่วมกับแขนจับจอภาพของบริษัทอื่นได้พอร์ตทั้งหมดได้รับการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบที่ด้านหลัง เพื่อให้จัดการสายเคเบิลได้ง่ายขึ้น ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ USB-C และรุ่น 16 นิ้วยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อสายเดี่ยวที่สะดวก พร้อมรองรับการจ่ายไฟด้วย ทั้งสองรุ่นมาพร้อมพอร์ต HDMI และ USB-A เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเชื่อมต่อทุกรุ่นพร้อมกับใบอนุญาตซอฟต์แวร์สร้างสรรค์แบบจำกัดเวลา
ได้แก่ Clip Studio Paint EX และ MASVพร้อมจำหน่ายWacom Cintiq รุ่นใหม่จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนนี้ หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: <a href="https://www.wacom.com/products/wacom-cintiq">https://www.wacom.com/products/wacom-cintiq</a>

Wacom เปิดตัวจอแสดงผลพร้อมปากกา Wacom Cintiq รุ่นใหม่ — Cintiq 16, Cintiq 24 และ Cintiq 24 touch — ซึ่งมาพร้อมประสิทธิภาพระดับมืออาชีพที่ช่วยให้เครื่องมือสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพอยู่ใกล้แค่เอื้อม โดยผสานเทคโนโลยี Pro Pen 3 ของ Wacom ดีไซน์กะทัดรัดและใช้งานได้สะดวกสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ที่พร้อมก้าวไปสู่อีกระดับ

ผลิตขึ้นเพื่อสร้างสรรค์ สร้างขึ้นเพื่อเติบโต — Wacom ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ Wacom Cintiq รุ่นใหม่  

ทำงานน้อยลง ไหลลื่นมากขึ้น

การทำงานสร้างสรรค์เป็นการผสมผสานระหว่างการทำงานและความไหลลื่น
การทำงานจำเป็นต้องใช้การผสมผสานระหว่างการควบคุมและกระบวนการซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน
ส่วนความไหลลื่น คือการสร้างสรรค์ Intuos Pro
รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ศิลปินทำงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อให้สามารถเข้าถึงความไหลลื่นแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง Wacom
Intuos Pro
รุ่นใหม่ล่าสุดยังคงรักษาตำแหน่งแท็บเล็ตรุ่นท็อปที่มืออาชีพทั่วโลกเลือกใช้
ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถึงขนาดที่นาซ่าเลือก
Intuos 3 รุ่นก่อนหน้าไปใช้บนสถานีอวกาศ
เพื่อให้นักบินอวกาศทำงานได้แม้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง 

จุดเด่นสำคัญของ
Intuos Pro รุ่นใหม่ คือการมาพร้อมกับ Pro Pen 3
ปากการุ่นท็อปสุดที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับในจอ Wacom Cintiq Pro เนื่องจากกระบวนการทำงานของศิลปินแต่ละคนมีความเฉพาะตัว
ปากกา Pro Pen 3 จึงได้รับการออกแบบมาให้ปรับแต่งได้ตามความชอบของศิลปินแต่ละคน
นับตั้งแต่ด้ามจับที่ปรับได้ พร้อมสามารถตั้งค่าปุ่มตามความต้องการ และเพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพของ
Wacom
ผลิตภัณฑ์จึงมาพร้อมกับที่จับและปุ่มที่เปลี่ยนได้ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนใหม่ได้ตามความต้องการด้านสรีระของผู้ใช้
Pro Pen 3 ไม่จำเป็นต้องชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ เช่นเดียวกับปากกา Wacom
รุ่นอื่น ๆ มาพร้อมหัวปากกาให้เลือกสองแบบ
โดยหัวยางช่วยเพิ่มความแม่นยำด้วยคุณสมบัติกันลื่น
และเมื่อใช้คู่กับพื้นผิวสัมผัสแบบใหม่ ยังช่วยให้หัวปากกาทนทานขึ้นอีกด้วย 

“เมื่อซอฟต์แวร์มีการพัฒนา
ความต้องการด้านความแม่นยำก็เพิ่มขึ้นตาม
ตอนที่เราเริ่มออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นท็อปของเราใหม่
เราเริ่มจากพื้นฐานของความแม่นยำ" โคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจแบรนด์ Wacom กล่าว
ชิปเซ็ตใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขณะที่ทำให้ตัวเครื่องบางลง
เพื่อตอบโจทย์ความแม่นยำที่จำเป็นสำหรับนักปั้น 3D นักตัดต่อภาพและวิดีโอ
และเพื่อให้แน่ใจว่างานจะแม่นยำโดยลดโอกาสการเคลื่อนไหวและการป้อนข้อมูลที่ไม่ตั้งใจ
Wacom จึงย้าย ExpressKeys และปุ่มสัมผัสไปไว้ที่ด้านบนของแท็บเล็ต
และเพิ่มปุ่มหมุนสองปุ่มให้กับ Intuos Pro ขนาดกลางและใหญ่
พร้อมปุ่มหมุนหนึ่งปุ่มสำหรับรุ่นขนาดเล็ก
ปุ่มหมุนเหล่านี้ให้การตอบสนองแบบสัมผัสแก่ศิลปิน
และสามารถใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวาโดยไม่ต้องปรับแต่งใด ๆ ปุ่มหมุนและ
ExpressKeys ของแท็บเล็ตมาพร้อมการตั้งค่าเริ่มต้น และสามารถตั้งค่าตามความต้องการสำหรับแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ในกระบวนการทำงานของศิลปินแต่ละคนได้อย่างง่ายดาย
รูปแบบใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การทำงานลื่นไหลยิ่งขึ้น
ในขณะที่ยังคงรักษาความแม่นยำในการทำงาน 

สร้างสรรค์ผลงานได้ทุกที่ที่คุณต้องการ

เนื่องจากศิลปินมืออาชีพต้องการความยืดหยุ่น
Intuos Pro
รุ่นใหม่จึงได้รับการออกแบบมาให้พกพาได้และทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการของศิลปินแต่ละคนได้อย่างราบรื่น
Intuos Pro มีให้เลือก 3 ขนาด ทุกรุ่นมาพร้อมพื้นที่วาดที่กว้างขึ้นในอัตราส่วน
16:9 เข้ากับขนาดจอแสดงผลรุ่นปัจจุบัน แม้ว่าพื้นที่ใช้งานจะเพิ่มขึ้น
แต่ทั้งสามขนาดก็มีขนาดเล็กและบางลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ ของ Intuos Pro
จึงทำให้พกพาได้ง่ายขณะเดินทาง ระหว่างที่ทำงานระยะไกล หรือสำนักงานต่าง ๆ
และใช้พื้นที่บนโต๊ะทำงานน้อยลง ในขณะที่รูปทรงที่บางลงช่วยให้การเคลื่อนไหวของมือและข้อมือเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ขนาดเล็กนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับศิลปินที่ต้องเคลื่อนที่บ่อย โดยมีน้ำหนักประมาณ
240 กรัม ขนาด 215 มม. x 163 มม.และพื้นที่ใช้งาน 187 มม. x 105
มม.ขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้รับการออกแบบมาสำหรับศิลปินที่ชื่นชอบพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่หรือผู้ที่จัดการกระบวนการทำงานผ่านหลายจอภาพ

ทุกรุ่นรองรับ
Bluetooth พร้อมการใช้งานแบบไร้สายได้สูงสุด 16 ชั่วโมง
ศิลปินสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดสามเครื่อง โดยเชื่อมต่อผ่านสาย USB ได้หนึ่งเครื่อง
และเชื่อมต่อแบบไร้สายได้สองเครื่อง
และสามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ได้โดยใช้สวิตช์บนแท็บเล็ต Intuos Pro
ทำงานได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac
รวมถึงแอปพลิเคชันสร้างสรรค์เกือบทั้งหมด
ดังนั้นศิลปินจึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและจัดการงานประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับผู้ที่ชอบความรู้สึกแบบดินสอหรือด้ามจับที่หนากว่า Wacom
ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตปากกา เช่น Staedtler, Lamy และ Dr. Grip
เพื่อให้มีปากกาหลากหลายรุ่นที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม

นอกจากนี้
เมื่อซื้อ Intuos Pro จะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้งาน Clip Studio Paint, MASV และ
Capture One ฟรี Wacom ยังมอบสิทธิ์การเข้าถึงซอฟต์แวร์ของตนเองชื่อ Yuify
ซึ่งมีการออกแบบมาเพื่อปกป้องลิขสิทธิ์สำหรับศิลปิน Yuify
สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ยอดนิยม เช่น Clip Studio Paint, Adobe Photoshop และ
Rebelle 7 อีกทั้งยังสามารถฝังไมโครมาร์กลงในผลงานของศิลปินได้
ซึ่งไมโครมาร์กนี้ยังคงติดอยู่แม้จะมีการบันทึกหน้าจอหรือดาวน์โหลด
ช่วยรักษาความเชื่อมโยงระหว่างศิลปินและผลงานของพวกเขา Intuos Pro
ยังให้การเข้าถึง Wacom Bridge เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพทั้งหมดของ
Wacom
ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการป้อนข้อมูลด้วยปากกาและการสัมผัสระหว่างเครื่องในพื้นที่และเครื่องระยะไกล
เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพที่ดีขึ้น

Intuos Pro จะวางจำหน่ายช่วงต้นปี
2568 ที่ Wacom eStore, Wacom official store Shopee, Lazada
และ ร้านค้าไอทีชั้นนำ ทั้งสามขนาดจะมีราคา
9,900 บาท สำหรับขนาดเล็ก 14,900 บาท สำหรับขนาดกลาง และ 19,900 บาท สำหรับขนาดใหญ่

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคฉบับเต็ม
กรุณาเข้าชม <a href="https://wacom.com">wacom.com</a>

วิสัยทัศน์ของ Wacom คือการนำผู้คนและเทคโนโลยีเข้ามาใกล้กันมากขึ้นผ่านโซลูชันอินเตอร์เฟซธรรมชาติ
สิ่งนี้ทำให้ Wacom เป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกในด้านแท็บเล็ตพร้อมปากกาและจอแสดงผลแบบอินเทอร์แอกทีฟ
รวมถึงสไตลัสดิจิทัลและโซลูชันสำหรับการบันทึกและประมวลผลลายเซ็นดิจิทัล เทคโนโลยีขั้นสูงของอุปกรณ์อินพุตที่ใช้งานง่ายจาก
Wacom มีการนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลอาร์ต ภาพยนตร์
เอฟเฟกต์พิเศษ แฟชัน และการออกแบบที่น่าตื่นเต้นที่สุดทั่วโลก และยังเป็นเทคโนโลยีอินเตอร์เฟซชั้นนำสำหรับผู้ใช้ทั้งในธุรกิจและที่บ้านในการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน Wacom ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น
(จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว 6727) มีบริษัทย่อยและสำนักงานสาขาทั่วโลกเพื่อสนับสนุนการตลาดและการจัดจำหน่ายในกว่า
150 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Wacom โปรดดูที่ <a href="http://www.wacom.com/">www.wacom.com</a>

Intuos Pro รุ่นใหม่นำเสนอประสิทธิภาพปากกาที่แม่นยำที่สุดของ Wacom และระดับประสิทธิภาพใหม่ทั้งหมดสำหรับขั้นตอนการทำงานสร้างสรรค์ล่าสุด
สิงค์โปร์ [วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568]แท็บเล็ตดิจิทัลระดับพรีเมียมที่เหมาะกับโต๊ะทำงานของนักวาดภาพประกอบ บรรณาธิการภาพ ช่างวิดีโอ และนักปั้น 3D ชั้นนำของโลก ตอนนี้สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีการควบคุมแบบสัมผัสและ Wacom Pro Pen 3 ที่กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม
 <h2>ทำงานน้อยลง ไหลลื่นมากขึ้น</h2>การทำงานสร้างสรรค์เป็นการผสมผสานระหว่างการทำงานและความไหลลื่น
การทำงานจำเป็นต้องใช้การผสมผสานระหว่างการควบคุมและกระบวนการซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน
ส่วนความไหลลื่น คือการสร้างสรรค์ Intuos Pro
รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ศิลปินทำงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อให้สามารถเข้าถึงความไหลลื่นแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง Wacom
Intuos Pro
รุ่นใหม่ล่าสุดยังคงรักษาตำแหน่งแท็บเล็ตรุ่นท็อปที่มืออาชีพทั่วโลกเลือกใช้
ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ตระกูลนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถึงขนาดที่นาซ่าเลือก
Intuos 3 รุ่นก่อนหน้าไปใช้บนสถานีอวกาศ
เพื่อให้นักบินอวกาศทำงานได้แม้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง จุดเด่นสำคัญของ
Intuos Pro รุ่นใหม่ คือการมาพร้อมกับ Pro Pen 3
ปากการุ่นท็อปสุดที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับในจอ Wacom Cintiq Pro เนื่องจากกระบวนการทำงานของศิลปินแต่ละคนมีความเฉพาะตัว
ปากกา Pro Pen 3 จึงได้รับการออกแบบมาให้ปรับแต่งได้ตามความชอบของศิลปินแต่ละคน
นับตั้งแต่ด้ามจับที่ปรับได้ พร้อมสามารถตั้งค่าปุ่มตามความต้องการ และเพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพของ
Wacom
ผลิตภัณฑ์จึงมาพร้อมกับที่จับและปุ่มที่เปลี่ยนได้ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนใหม่ได้ตามความต้องการด้านสรีระของผู้ใช้
Pro Pen 3 ไม่จำเป็นต้องชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ เช่นเดียวกับปากกา Wacom
รุ่นอื่น ๆ มาพร้อมหัวปากกาให้เลือกสองแบบ
โดยหัวยางช่วยเพิ่มความแม่นยำด้วยคุณสมบัติกันลื่น
และเมื่อใช้คู่กับพื้นผิวสัมผัสแบบใหม่ ยังช่วยให้หัวปากกาทนทานขึ้นอีกด้วย “เมื่อซอฟต์แวร์มีการพัฒนา
ความต้องการด้านความแม่นยำก็เพิ่มขึ้นตาม
ตอนที่เราเริ่มออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นท็อปของเราใหม่
เราเริ่มจากพื้นฐานของความแม่นยำ" โคจิ ยาโนะ
รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจแบรนด์ Wacom กล่าว
ชิปเซ็ตใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขณะที่ทำให้ตัวเครื่องบางลง
เพื่อตอบโจทย์ความแม่นยำที่จำเป็นสำหรับนักปั้น 3D นักตัดต่อภาพและวิดีโอ
และเพื่อให้แน่ใจว่างานจะแม่นยำโดยลดโอกาสการเคลื่อนไหวและการป้อนข้อมูลที่ไม่ตั้งใจ
Wacom จึงย้าย ExpressKeys และปุ่มสัมผัสไปไว้ที่ด้านบนของแท็บเล็ต
และเพิ่มปุ่มหมุนสองปุ่มให้กับ Intuos Pro ขนาดกลางและใหญ่
พร้อมปุ่มหมุนหนึ่งปุ่มสำหรับรุ่นขนาดเล็ก
ปุ่มหมุนเหล่านี้ให้การตอบสนองแบบสัมผัสแก่ศิลปิน
และสามารถใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวาโดยไม่ต้องปรับแต่งใด ๆ ปุ่มหมุนและ
ExpressKeys ของแท็บเล็ตมาพร้อมการตั้งค่าเริ่มต้น และสามารถตั้งค่าตามความต้องการสำหรับแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ในกระบวนการทำงานของศิลปินแต่ละคนได้อย่างง่ายดาย
รูปแบบใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การทำงานลื่นไหลยิ่งขึ้น
ในขณะที่ยังคงรักษาความแม่นยำในการทำงาน <h2>สร้างสรรค์ผลงานได้ทุกที่ที่คุณต้องการ</h2>เนื่องจากศิลปินมืออาชีพต้องการความยืดหยุ่น
Intuos Pro
รุ่นใหม่จึงได้รับการออกแบบมาให้พกพาได้และทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการของศิลปินแต่ละคนได้อย่างราบรื่น
Intuos Pro มีให้เลือก 3 ขนาด ทุกรุ่นมาพร้อมพื้นที่วาดที่กว้างขึ้นในอัตราส่วน
16:9 เข้ากับขนาดจอแสดงผลรุ่นปัจจุบัน แม้ว่าพื้นที่ใช้งานจะเพิ่มขึ้น
แต่ทั้งสามขนาดก็มีขนาดเล็กและบางลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ ของ Intuos Pro
จึงทำให้พกพาได้ง่ายขณะเดินทาง ระหว่างที่ทำงานระยะไกล หรือสำนักงานต่าง ๆ
และใช้พื้นที่บนโต๊ะทำงานน้อยลง ในขณะที่รูปทรงที่บางลงช่วยให้การเคลื่อนไหวของมือและข้อมือเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ขนาดเล็กนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับศิลปินที่ต้องเคลื่อนที่บ่อย โดยมีน้ำหนักประมาณ
240 กรัม ขนาด 215 มม. x 163 มม.และพื้นที่ใช้งาน 187 มม. x 105
มม.ขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้รับการออกแบบมาสำหรับศิลปินที่ชื่นชอบพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่หรือผู้ที่จัดการกระบวนการทำงานผ่านหลายจอภาพทุกรุ่นรองรับ
Bluetooth พร้อมการใช้งานแบบไร้สายได้สูงสุด 16 ชั่วโมง
ศิลปินสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดสามเครื่อง โดยเชื่อมต่อผ่านสาย USB ได้หนึ่งเครื่อง
และเชื่อมต่อแบบไร้สายได้สองเครื่อง
และสามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ได้โดยใช้สวิตช์บนแท็บเล็ต Intuos Pro
ทำงานได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac
รวมถึงแอปพลิเคชันสร้างสรรค์เกือบทั้งหมด
ดังนั้นศิลปินจึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและจัดการงานประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับผู้ที่ชอบความรู้สึกแบบดินสอหรือด้ามจับที่หนากว่า Wacom
ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตปากกา เช่น Staedtler, Lamy และ Dr. Grip
เพื่อให้มีปากกาหลากหลายรุ่นที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติมนอกจากนี้
เมื่อซื้อ Intuos Pro จะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้งาน Clip Studio Paint, MASV และ
Capture One ฟรี Wacom ยังมอบสิทธิ์การเข้าถึงซอฟต์แวร์ของตนเองชื่อ Yuify
ซึ่งมีการออกแบบมาเพื่อปกป้องลิขสิทธิ์สำหรับศิลปิน Yuify
สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ยอดนิยม เช่น Clip Studio Paint, Adobe Photoshop และ
Rebelle 7 อีกทั้งยังสามารถฝังไมโครมาร์กลงในผลงานของศิลปินได้
ซึ่งไมโครมาร์กนี้ยังคงติดอยู่แม้จะมีการบันทึกหน้าจอหรือดาวน์โหลด
ช่วยรักษาความเชื่อมโยงระหว่างศิลปินและผลงานของพวกเขา Intuos Pro
ยังให้การเข้าถึง Wacom Bridge เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพทั้งหมดของ
Wacom
ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการป้อนข้อมูลด้วยปากกาและการสัมผัสระหว่างเครื่องในพื้นที่และเครื่องระยะไกล
เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพที่ดีขึ้นIntuos Pro จะวางจำหน่ายช่วงต้นปี
2568 ที่ Wacom eStore, Wacom official store Shopee, Lazada
และ ร้านค้าไอทีชั้นนำ ทั้งสามขนาดจะมีราคา
9,900 บาท สำหรับขนาดเล็ก 14,900 บาท สำหรับขนาดกลาง และ 19,900 บาท สำหรับขนาดใหญ่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคฉบับเต็ม
กรุณาเข้าชม <a href="https://wacom.com">wacom.com</a> -สิ้นสุด-เกี่ยวกับ Wacom วิสัยทัศน์ของ Wacom คือการนำผู้คนและเทคโนโลยีเข้ามาใกล้กันมากขึ้นผ่านโซลูชันอินเตอร์เฟซธรรมชาติ
สิ่งนี้ทำให้ Wacom เป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกในด้านแท็บเล็ตพร้อมปากกาและจอแสดงผลแบบอินเทอร์แอกทีฟ
รวมถึงสไตลัสดิจิทัลและโซลูชันสำหรับการบันทึกและประมวลผลลายเซ็นดิจิทัล เทคโนโลยีขั้นสูงของอุปกรณ์อินพุตที่ใช้งานง่ายจาก
Wacom มีการนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลอาร์ต ภาพยนตร์
เอฟเฟกต์พิเศษ แฟชัน และการออกแบบที่น่าตื่นเต้นที่สุดทั่วโลก และยังเป็นเทคโนโลยีอินเตอร์เฟซชั้นนำสำหรับผู้ใช้ทั้งในธุรกิจและที่บ้านในการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน Wacom ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น
(จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว 6727) มีบริษัทย่อยและสำนักงานสาขาทั่วโลกเพื่อสนับสนุนการตลาดและการจัดจำหน่ายในกว่า
150 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Wacom โปรดดูที่ <a href="http://www.wacom.com/">www.wacom.com</a><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/31705afe-7619-4fe7-f7c6-139140904a00/public" alt="IntuosPro-med-ExpressKeys-InUse-MarkusBledowski-042_LR" /><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/35caa539-315e-45a0-c342-a51316871c00/public" alt="IntuosPro-med-StraightGrip-InUse-JoyceLiu-154_Crop_LR" /><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/6c57d8e4-75a8-456f-36ea-45af21819d00/public" alt="PTK670K-IntuosPro-Overhead-FlareGripPen-OnStand-RGB" /><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/f0a37b6f-bc1e-4ecc-c501-e602d6fd2700/public" alt="PTK870K-PTK670K-PTK470K-Overhead-FlareGripPen-OnStand-RGB" /><img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/2f269135-2780-493c-c03b-6ce53bcfd900/public" alt="Wacom Pro Pen 3 slim spare parts_LR" />

Manga / Anime

STEM (Science, Tech, Engineering, Math)

Intuos Pro รุ่นใหม่นำเสนอประสิทธิภาพปากกาที่แม่นยำที่สุดของ Wacom และระดับประสิทธิภาพใหม่ทั้งหมดสำหรับขั้นตอนการทำงานสร้างสรรค์ล่าสุด
สิงค์โปร์ [วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568]แท็บเล็ตดิจิทัลระดับพรีเมียมที่เหมาะกับโต๊ะทำงานของนักวาดภาพประกอบ บรรณาธิการภาพ ช่างวิดีโอ และนักปั้น 3D ชั้นนำของโลก ตอนนี้สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันสร้างสรรค์ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีการควบคุมแบบสัมผัสและ Wacom Pro Pen 3 ที่กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม


Wacom ปรับโฉมแท็บเล็ตปากกา Intuos Pro รุ่นท็อปสุดเพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยม

ในที่สุดการแข่งขัน ROO Odin Cup ครั้งแรก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้ปิดฉากลงอย่างงดงาม ณ.ใจกลางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย หลังจากการต่อสู้กันอย่างดุเดือดติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน ในที่สุดวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา กิลด์ RISE ก็ได้คว้าตำแหน่งแชมป์ไปครองได้อย่างสง่างาม เอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างขาดลอย กลายเป็นกิลด์แชมป์ในการแข่งขัน ROO Odin Cup สมัยแรก ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การแข่งขัน Odin Cup ของ Ragnarok Origin ที่กินเวลาเกือบ 1 เดือน ถือเป็นการแข่งขัน Esports ระดับแนวหน้าของเกมประเภท MMO ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแข่งขัน Odin Cup มีการจัดการแข่งขันทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดผู้เล่นที่ชื่นชอบและหลงใหลในเกม RO ได้เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบกีฬา Esports ในเอเชียตะวันออกเฉัยงใต้ได้อีกเป็นจำนวนมาก ในการแข่งขันยังมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ให้กับผู้สนใจทางบ้านได้เข้าร่วมรับชมและร่วมสนุกในการส่งแรงเชียร์อีกด้วยจากความสำเร็จอย่างล้นหลามของ ROO Odin Cup ทำให้การเข้าสู่กีฬา Esports ของเกมประเภท MMO ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มมีรูปแบบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ก้าวสู่ความเป็นสุดยอดการแข่งขัน MMO ได้อย่างไร&nbsp;

- ฐานผู้ชมจำนวนมาก + เสน่ห์ความคลาสสิกของ IP ทำให้ "Ragnarok Origin" กลายเป็นต้นแบบกีฬา Esports ของเกมประเภท MMO ในประเทศไทยและรวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ "Ragnarok Online" เปิดให้บริการและพัฒนามาเป็นเวลากว่า 20 ปี ส่งผลให้ "Ragnarok Origin" ในวันนี้ ได้กลายเป็นเกม MMO ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้กลาย "IP ระดับประเทศ" เป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นหลายๆคน มี "ฐานแฟนคลับ" เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ ROO Odin Cup ก้าวเข้าสู่วงการ Esports ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- ความกระตือรือร้นของผู้เล่นในโหมด PVP + ความพยายามในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ Ragnarok Origin จัดการแข่งขันกีฬา Esports ประเภท MMO ขึ้นมา ในปัจจุบันการแข่งขันกีฬา Esports ของเกมประเภท FPS หรือ MOBA เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันผู้เล่นยังคงเสาะแสวงหาความตื่นตาตื่นใจและรสชาติที่แปลกใหม่ ทำให้ Esports ของเกมประเภท MMO เริ่มได้รับความสนใจ ช่องว่างของการเติบโตและการพัฒนายังคงไปได้อีกไกล สำหรับแรงจูงใจในการเติบโตและพัฒนาไม่เพียงจะมาจากผู้เล่นจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมาจากผู้ที่ชื่นชอบวิธีการเล่นในโหมด PVP ของเกมประเภท MMO ที่ชอบการท้าทายแบบ 1 ต่อ 1 หรือ กิลด์ต่อกิลด์ อีกด้วย สำหรับไฮไลท์และความสนุกของ ROO Odin Cup นั้น คือการผสมผสานความแข็งแกร่งส่วนบุคคลเข้ากับความแข็งแกร่งของทีม ซึ่งเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของเกมประเภท MMO ผ่านเวทีการแข่งขันแบบ Esports นั่นเอง

- การแข่งขันคุณภาพ +การผสมผสานการแข่งขันแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่ลงตัว ทำให้ ROO Odin Cup ได้กลายเป็นต้นแบบและสร้างแนวทางการเติบโตที่ดีในอนาคตให้กับการแข่งขันในครั้งถัดไป การแข่งขัน ROO Odin Cup เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น มีกิลด์เป็นหัวใจหลัก บนพื้นฐานของความร่วมมือ และการทำงานเป็นทีม ผสมผสานกับความแข็งแกร่งส่วนบุคคล กลยุทธ์ที่ท้าทาย ทำให้การแข่งขัน ROO Odin Cup มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เนื้อหาการแข่งขันที่มีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และรูปแบบกติกาที่สามารถให้สมาชิกในกิลด์ทุกคนร่วมสนุกได้ นอกจากนี้ระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศผู้ที่สนใจยังสามารถรับชมการแข่งขันที่ดุเดือดผ่านการถ่ายทอดสดได้อีกด้วย&nbsp;

มีการสร้างสตูดิโอถ่ายทอดสดเสมือนจริง ปรับปรุงคุณภาพภาพและเสียง มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้งาน เพื่อให้ผู้ชมทางบ้าน ได้รับชมและมีส่วนร่วมในการแข่งขันในครั้งนี้ นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มการถ่ายทอดสดการแข่งขัน มีการนำเสนอมุมมองในโลกของ Ragnarok Origin ทั้งหมด การต่อสู้ระหว่างกิลด์ที่ดุเดือดเข้มข้น ทำให้การแข่งขัน ROO Odin Cup มีผู้เข้าชมสะสมถึง 1 ล้านครั้ง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของการแข่งขันในครั้งนี้&nbsp;&nbsp;

สตูดิโอเสมือนจริงแห่งนี้ เป็นสตูดิโอที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวแทนของความหรูหราและความทันสมัย สามารถสร้างสรรค์มุมมองในเกมด้วยศิลปะได้อย่างประณีตสวยงาม สร้างความเพลิดเพลินและความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมาก ธีมสีทองและรูปแบบการตกแต่งธงของกิลด์ทั้ง 4 ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เน้นย้ำถึงความรุ่งโรจน์ของผู้ที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี

- ความสนุก + การแบ่งปันข้อมูล เป็นก้าวแรกที่ทำให้การแข่งขัน ROO Odin Cup ได้รับความนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากการระบบการถ่ายทอดสดที่มีทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์แล้ว ROO Odin Cup ยังได้นำเสนอเนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวกับเกม เพื่อเพิ่มอรรถรสการรับชมการแข่งขันให้มีความเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การโปรโมทกิจกรรม , การรายงานผล , เรื่องราวการเติบโตของกิลด์ , เรื่องราวของผู้เข้าแข่งขัน , การปฏิสัมพันธ์กับ KOL ตลอดจนคลิปโปรโมทการแข่งขัน เป็นต้น นอกจากนี้ทีมงานยังได้ทำการพูดคุยกับสมาชิกของทั้ง 32 กิลด์ที่ผ่านเข้ารอบแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้เล่น ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงให้เกมมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เล่นในปัจจุบันมากที่สุด

- การรวมตัวกันของแบรนด์ดัง + การร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมในเชิงลึก ทำให้การแข่งขัน ROO Odin Cup ประสบผลสำเร็จในเชิงพาณิชย์ ในฐานะที่เป็นงาน Esports ประเภท MMO ระดับคุณภาพงานแรกในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การแข่งขัน ROO Odin Cup ในรอบชิงชนะเลิศ ยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับ HUAWEI AppGallery ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแรงร่วมใจเพื่อสร้างสรรค์งานระดับไฮเอนด์ในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของ Ragnarok Origin ในอนาคต นอกจากนี้ Ragnarok Origin ยังได้มีการร่วมมือในเชิงพาณิชย์กับแบรนด์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง อื่นๆอีกมากมาย อาทิเช่น Razer Gold , GOC เป็นต้น เพื่อให้ผู้เล่นในประเทศฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เป็นต้น ที่ไม่ได้มาเข้าร่วมในสนามจริงได้สนุกเพลิดเพลินไปด้วยกัน

อนาคตของการแข่งขัน Esports ประเภท MMO พร้อมที่จะเริ่มต้นแล้ว!

แวดวงกีฬา Esports ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการสายเลือดใหม่หรือไม่? คำตอบคือ "ใช่" จากกระแสนิยมของ ROO Odin Cup ในประเทศไทย ตั้งแต่การแข่งขันรอบออนไลน์จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ภายใต้การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดที่ทันสมัย แนวคิดเชิงพาณิชย์ และความบันเทิง จะเห็นได้ว่าเกมประเภท MMO สามารถที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกีฬา Esports ได้

ตลอดการแข่งขัน ROO Odin Cup ไม่เพียงจะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบกีฬา Esports ได้เพียงเท่านั้น แต่การต่อสู้ที่ท้าทายระหว่างกิลด์ยังดึงดูดความสนใจจากพันธมิตรกิลด์ต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลุ่มผู้เล่นอิสระได้อีกด้วย ความสนใจและการมีส่วนร่วมขององค์กรเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะของความบันเทิงและในเชิงพาณิชย์อย่างเด่นชัดของ ROO Odin Cup มี KOL ชื่อดังในหลายประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ทำผู้ประกอบการและนักลงทุนหลายรายหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน Esports ประเภท MMO อย่าง ROO Odin Cup มากขึ้น 

การแข่งขัน ROO Odin Cup ในครั้งนี้เป็นเพียงก้าวแรกของ เกม Ragnaok Origin เท่านั้น ก้าวถัดไปยังมีแผนการที่จะจัดการแข่งขัน Thor Cup และ Valkyrie Cup ซึ่งเป็นวิธีการเล่น "แบบทีมในโหมด 5V5" และเป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความยุติธรรม ซึ่งแผนการการแข่งขันที่หลากหลายรูปแบบเช่นนี้ จะช่วยผลักดันให้เกมประเภท MMO อย่าง Ragnaok Origin ได้ก้าวไปสู่ตลาด Esports ที่ใหญ่กว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน หรือแม้แต่ลาตินอเมริกา นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการจัดการแข่งขันเกมแนว MMO ระดับโลกได้อีกด้วย

แชมป์คนถัดไปอาจเป็นคุณ!

ถึงแม้ว่าการแข่งขัน Odin Cup ของ ROO จบลงแล้ว แต่ว่าการแข่งขันอื่นๆของเกม Ragnarok Origin ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากการแข่งขัน Thor Cup และ Valkyrie Cup ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เกม Ragnarok Origin เองก็ก็ยังคงมีการอัปเดตเนื้อหาเวอร์ชันใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นที่มีความสนใจใน Esports มาเป็นเวลานานหรือเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถและความชำนาญในเกม ROO ที่นี่เรามีให้คุณครบแล้ว!! ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆของเกมเพิ่มเติมได้ที่ บัญชีทางการของ Ragnarok Origin

ลิงก์ดาวน์โหลด：<a href="https://bit.ly/47TFZCj">https://bit.ly/47TFZCj</a>

ดาวน์โหลด เวอร์ชั่น PC：<a href="https://bit.ly/3EbrXyx">https://bit.ly/3EbrXyx</a>

เว็บไซต์หลัก：<a href="https://bit.ly/3P5NltQ">https://bit.ly/3P5NltQ</a>

ชุมชนของเรา：<a href="https://discord.gg/rooglobal">https://discord.gg/rooglobal</a>

Arcade Game

Mobile app

Mobile games

Consumer Games

สุดยอดการแข่งขัน MMO ได้ปิดฉากลงแล้ว  มาดูกันว่า Ragnarok Origin - Odin Cup ประสบความสำเร็จได้อย่างไร

โดย&nbsp;ALL ONLINE&nbsp;เปิดให้จองแล้ว ณ บัดนี้ พร้อมขอชวนมาร่วมเป็นผู้ใช้&nbsp;iPhone15&nbsp;สมาร์ทโฟนแห่งปี เป็นกลุ่มแรกในไทย พร้อมเทคโนโลยีครบครัน โดย&nbsp;iPhone15 / 15 Plus&nbsp;มาพร้อมกับวัสดุอลูมิเนียมเกรดระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยาน รวมถึงกล้องปรับเป็น&nbsp;48&nbsp;ล้านพิกเซลแล้ว แถมยังซูมออปติคัลแบบ&nbsp;3&nbsp;ระดับ ทั้งหมดนี้มาในสีพาสเทลหวานละมุน ส่วน&nbsp;iPhone 15 Pro / 15 ProMax&nbsp;ดีไซน์จากไทเทเนียม ให้สัมผัสที่แข็งแรง เบา พร้อมขอบมน และปุ่มแอ็คชั่นแบบใหม่ ขับเคลื่อนแบบทรงพลังด้วยชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด&nbsp;A17 Pro&nbsp;พร้อม&nbsp;GPU 6&nbsp;แกนใหม่ ใช้เทคโนโลยีการจำลองธรรมชาติของแสง ให้กราฟิกลื่นไหลมากขึ้น แสงสมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งเคลมกันว่าแรงกว่าเดิมมาก แถมกล้องหลัง&nbsp;3&nbsp;ตัว ทุกเลนส์ได้รับการโค๊ตติ้งด้วยเทคโนโลยีนาโน ลดแสงแฟลร์หน้าเลนส์ที่เป็นปัญหาขาประจำของกล้องไอโฟนอีกด้วย

5&nbsp;สีของ&nbsp;iPhone15 / iPhone15 Plus

5&nbsp;สีของ&nbsp;iPhone15 Pro / iPhone15 Pro Max

- สีไทเทเนียมดำ Black Titanium

- สีไทเทเนียมขาว White Titanium

- สีไทเทเนียมน้ำเงิน Blue Titanium

- สีไทเทเนียมธรรมชาติ Natural Titanium

โดยความจุ และราคาเต็มของแต่ละรุ่น ดังนี้

iPhone 15 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;32,900&nbsp;บาท

iPhone 15 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;36,900&nbsp;บาท

iPhone 15 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;45,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Plus 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;37,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Plus 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;41,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Plus 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;50,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;41,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;45,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;54,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro 1TB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;63,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro Max 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;48,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro Max 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;57,900&nbsp;บาท

iPhone 15 Pro 1TB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;66,900&nbsp;บาท

*ราคาเครื่องเปล่า

สามารถสั่งจอง&nbsp;iPhone15&nbsp;ผ่าน&nbsp;ALL ONLINE&nbsp;บน&nbsp;7App&nbsp;หรือ&nbsp;<a href="https://www.allonline.7eleven.co.th/" target="_blank">https://www.allonline.7eleven.co.th&nbsp;</a>พร้อมรับ&nbsp;M-Stamp&nbsp;มูลค่า&nbsp;1,000&nbsp;บาท และโปรโมชันพิเศษอีกมากมายจาก&nbsp;TRUE&nbsp;ตั้งแต่วันที่&nbsp;15 – 21&nbsp;กันยายน&nbsp;2566

<h1>ALL ONLINE เปิดจอง iPhone 15 แล้ววันนี้พร้อมรับ M-Stamp 1,000 บาท</h1>สาวก iPhone เฮ ALL ONLINE เปิดจอง iPhone 15 บน 7App พร้อมรับสิทธิพิเศษ เมื่อจอง iPhone 15 จะได้รับ M-Stamp มูลค่า 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 กันยายน 2566โดย&nbsp;ALL ONLINE&nbsp;เปิดให้จองแล้ว ณ บัดนี้ พร้อมขอชวนมาร่วมเป็นผู้ใช้&nbsp;iPhone15&nbsp;สมาร์ทโฟนแห่งปี เป็นกลุ่มแรกในไทย พร้อมเทคโนโลยีครบครัน โดย&nbsp;iPhone15 / 15 Plus&nbsp;มาพร้อมกับวัสดุอลูมิเนียมเกรดระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยาน รวมถึงกล้องปรับเป็น&nbsp;48&nbsp;ล้านพิกเซลแล้ว แถมยังซูมออปติคัลแบบ&nbsp;3&nbsp;ระดับ ทั้งหมดนี้มาในสีพาสเทลหวานละมุน ส่วน&nbsp;iPhone 15 Pro / 15 ProMax&nbsp;ดีไซน์จากไทเทเนียม ให้สัมผัสที่แข็งแรง เบา พร้อมขอบมน และปุ่มแอ็คชั่นแบบใหม่ ขับเคลื่อนแบบทรงพลังด้วยชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด&nbsp;A17 Pro&nbsp;พร้อม&nbsp;GPU 6&nbsp;แกนใหม่ ใช้เทคโนโลยีการจำลองธรรมชาติของแสง ให้กราฟิกลื่นไหลมากขึ้น แสงสมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งเคลมกันว่าแรงกว่าเดิมมาก แถมกล้องหลัง&nbsp;3&nbsp;ตัว ทุกเลนส์ได้รับการโค๊ตติ้งด้วยเทคโนโลยีนาโน ลดแสงแฟลร์หน้าเลนส์ที่เป็นปัญหาขาประจำของกล้องไอโฟนอีกด้วย5&nbsp;สีของ&nbsp;iPhone15 / iPhone15 Plus- ดำ- เขียว- เหลือง- ชมพู- ฟ้า5&nbsp;สีของ&nbsp;iPhone15 Pro / iPhone15 Pro Max- สีไทเทเนียมดำ Black Titanium- สีไทเทเนียมขาว White Titanium- สีไทเทเนียมน้ำเงิน Blue Titanium- สีไทเทเนียมธรรมชาติ Natural Titaniumโดยความจุ และราคาเต็มของแต่ละรุ่น ดังนี้iPhone 15 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;32,900&nbsp;บาทiPhone 15 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;36,900&nbsp;บาทiPhone 15 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;45,900&nbsp;บาทiPhone 15 Plus 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;37,900&nbsp;บาทiPhone 15 Plus 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;41,900&nbsp;บาทiPhone 15 Plus 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;50,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro 128GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;41,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;45,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;54,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro 1TB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;63,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro Max 256GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;48,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro Max 512GB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;57,900&nbsp;บาทiPhone 15 Pro 1TB&nbsp;เริ่มต้นที่&nbsp;66,900&nbsp;บาท*ราคาเครื่องเปล่าสามารถสั่งจอง&nbsp;iPhone15&nbsp;ผ่าน&nbsp;ALL ONLINE&nbsp;บน&nbsp;7App&nbsp;หรือ&nbsp;<a href="https://www.allonline.7eleven.co.th/" target="_blank">https://www.allonline.7eleven.co.th&nbsp;</a>พร้อมรับ&nbsp;M-Stamp&nbsp;มูลค่า&nbsp;1,000&nbsp;บาท และโปรโมชันพิเศษอีกมากมายจาก&nbsp;TRUE&nbsp;ตั้งแต่วันที่&nbsp;15 – 21&nbsp;กันยายน&nbsp;2566นับตั้งแต่ปี 2534 ซีพี ออลล์เปิดโอกาสให้พนักงานของบริษัทและบุคคลภายนอกที่ต้องการความมั่นคงทางธุรกิจ ได้มีโอกาสในการเป็นผู้ร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ปัจจุบันมีร้านสโตร์บิสิเนสพาร์ทเนอร์ จำนวนกว่า 6,500 สาขา จากจำนวนร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้งหมดกว่า 11,700 สาขา 

ออลล์ ออนไลน์ (ALL Online) เป็นการใช้บริการในรูปแบบใหม่เช่น ซื้อสินค้า, จ่ายบริการ แบบสะดวกครบ จบที่เดียว เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่มีมากกว่า 14 ล้านคนต่อวัน แต่เดิมลูกค้าใช้เงินสดในการซื้อสินค้า เราเปลี่ยนและปรับมาเป็น สร้างสังคมไร้เงินสด ร่วมกับ True Money Wallet, เพิ่มบริการความสะดวกในการสั่ง-ส่งสินค้า หรือ 7 Delivery อีกด้วย
เซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven)
โทร 02-826-7777
อีเมล faq@7eleven.co.th

Advertising / Promotion / PR

Campaign

สาวก iPhone เฮ ALL ONLINE เปิดจอง iPhone 15 บน 7App พร้อมรับสิทธิพิเศษ เมื่อจอง iPhone 15 จะได้รับ M-Stamp มูลค่า 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 21 กันยายน 2566

ALL ONLINE เปิดจอง iPhone 15 แล้ววันนี้พร้อมรับ M-Stamp 1,000 บาท

เปิดภาพความน่ารัก ยืนหนึ่งเรื่องความฮอตงานพรีเซ็นเตอร์เข้ารัวๆ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ล่าสุดเป็น Brand ambassador ของ Focus ฟิล์มและกระจกกันรอย เป็นที่เรียบร้อยในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น”

Focus แบรนด์อันดับหนึ่ง ผู้นำด้านฟิล์มและกระจกกันรอยจัดงานเปิดตัว “บิวกิ้น–พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” มาร่วมเสริมทัพ Brand Ambassador Focus รุ่นพี่อย่าง ญาญ่า อุรัสยา ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ส่งต่อสิ่งดีๆ ผ่านกระจกกันรอยเลนส์กล้อง ในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น” พร้อมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่กระจกกันรอยเลนส์กล้องแซฟไฟร์ (Focus 3D sapphire lens glass)

ซึ่งเป็นกระจกกันรอยเลนส์กล้องที่แข็งแกร่งที่สุด ปกป้องกล้องหลัง ให้ผู้บริโภคใช้งานได้อย่างมั่นใจ พร้อมรับประกันนาน 90 วัน เพื่อปกป้องสมาร์ทโฟนได้อย่างครบรอบด้าน ในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ในงานเต็มไปด้วยสื่อมวลชนและบรรดาแฟนคลับของหนุ่มบิวกิ้น ที่มาร่วมส่งกำลังใจให้ Brand Ambassador ของ Focus กันอย่างล้นหลาม

โดยภายในงานยังมีกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่พรีออเดอร์ Focus billkin edition boxset และได้เป็นผู้โชคดี จำนวน 30 ท่าน ที่สามารถเข้าร่วมงานได้อย่างใกล้ชิด นั่งติดขอบเวทีกันเลยทีเดียว เรียกว่าฟินจิกหมอนแน่นอน และยังมีแจกของรางวัลอีก 30 รางวัล เป็น Post card พร้อมลายเซ็น รวมถึงสิทธิ์ถ่ายรูป Photo group ร่วมกับบิวกิ้น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้แฟนคลับที่มาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย ปิดท้ายความฟินด้วยเพลงสุดพิเศษ ที่บิวกิ้นเตรียม มาร้องโชว์ให้แฟน ๆ ภายในงานได้ฟังกันอย่างใกล้ชิด Focus จัดเต็มให้แฟน ๆ ได้ใจละลายอินไปกับทุกโมเม้น และปลายปีนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษให้ได้ร่วมสนุกรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FocusFilm

<h1>Focus กระจกกันรอย ดึง บิวกิ้น พุฒิพงศ์ เสริมทัพ Brand ambassador</h1>กรี๊ดสนั่นกลางสยาม! Focus กระจกกันรอย ดึง ‘บิวกิ้น พุฒิพงศ์’ เสริมทัพ Brand ambassador ในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น”เปิดภาพความน่ารัก ยืนหนึ่งเรื่องความฮอตงานพรีเซ็นเตอร์เข้ารัวๆ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ล่าสุดเป็น Brand ambassador ของ Focus ฟิล์มและกระจกกันรอย เป็นที่เรียบร้อยในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น”<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/0ebc8d5850b4b324a301304022b08e5367f0a48ff943ef6c34f3f089521f8e7d/focus1.jpg" alt="Image"/>Focus แบรนด์อันดับหนึ่ง ผู้นำด้านฟิล์มและกระจกกันรอยจัดงานเปิดตัว “บิวกิ้น–พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” มาร่วมเสริมทัพ Brand Ambassador Focus รุ่นพี่อย่าง ญาญ่า อุรัสยา ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ส่งต่อสิ่งดีๆ ผ่านกระจกกันรอยเลนส์กล้อง ในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น” พร้อมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่กระจกกันรอยเลนส์กล้องแซฟไฟร์ (Focus 3D sapphire lens glass)ซึ่งเป็นกระจกกันรอยเลนส์กล้องที่แข็งแกร่งที่สุด ปกป้องกล้องหลัง ให้ผู้บริโภคใช้งานได้อย่างมั่นใจ พร้อมรับประกันนาน 90 วัน เพื่อปกป้องสมาร์ทโฟนได้อย่างครบรอบด้าน ในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ในงานเต็มไปด้วยสื่อมวลชนและบรรดาแฟนคลับของหนุ่มบิวกิ้น ที่มาร่วมส่งกำลังใจให้ Brand Ambassador ของ Focus กันอย่างล้นหลาม<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/b9280a6d852bf91a4046cba46cc025bf3a11e84bd936b52c82586382df52567c/focus2.jpg" alt="Image"/>โดยภายในงานยังมีกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่พรีออเดอร์ Focus billkin edition boxset และได้เป็นผู้โชคดี จำนวน 30 ท่าน ที่สามารถเข้าร่วมงานได้อย่างใกล้ชิด นั่งติดขอบเวทีกันเลยทีเดียว เรียกว่าฟินจิกหมอนแน่นอน และยังมีแจกของรางวัลอีก 30 รางวัล เป็น Post card พร้อมลายเซ็น รวมถึงสิทธิ์ถ่ายรูป Photo group ร่วมกับบิวกิ้น<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/77e17c7e76ca7d792c49761223760d76490dfa72300629cfb48ee2701236814c/focus3.jpg" alt="Image"/><img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/a0a81b3bf57f04fca253b3c11f55a7347898cc70811c9d19f9f83b69652d2442/focus4.jpg" alt="Image"/>นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้แฟนคลับที่มาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย ปิดท้ายความฟินด้วยเพลงสุดพิเศษ ที่บิวกิ้นเตรียม มาร้องโชว์ให้แฟน ๆ ภายในงานได้ฟังกันอย่างใกล้ชิด Focus จัดเต็มให้แฟน ๆ ได้ใจละลายอินไปกับทุกโมเม้น และปลายปีนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษให้ได้ร่วมสนุกรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FocusFilmฟิล์มกระจกกันรอยโฟกัส (Focus Film) ฟิล์มและกระจกกันรอย ดีที่สุดเพื่อปกป้องโทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟน ปกป้องครบรอบด้าน ทั้งหน้าจอ หลังเครื่อง และเลนส์กล้อง มีฟิล์มและกระจกกันรอยหลายแบบให้เลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานกับไลฟ์สไตล์ 
มีครอบคลุมมือถือมากที่สุดในไทย ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ รองรับ iPhone, iPad, Samsung, Oppo, Vivo และรุ่นอื่นๆ กว่า 3,000 รุ่นฟิล์มกระจกกันรอย Focus
โทร 022944848
อีเมล marketing@dplusonline.net

Event

กรี๊ดสนั่นกลางสยาม! Focus กระจกกันรอย ดึง ‘บิวกิ้น พุฒิพงศ์’ เสริมทัพ Brand ambassador ในงาน “ติดเลนส์โฟกัสชัดปังxบิวกิ้น”