สิงคโปร์ 2 พฤษภาคม 2567 – <a href="https://www.hairobotics.com/">Hai Robotics</a> ผู้ให้บริการระดับโลกกับระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่สำหรับสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง (ACR) ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตสินค้าแห่งล่าสุดอย่างเป็นทางการในพื้นที่กว้างถึง 7,700 ตารางฟุต&nbsp; ที่จัดแสดงหุ่นยนต์ <a href="https://www.hairobotics.com/products/haipick-system-2">HaiPick Systems</a> ไว้อย่างโดดเด่น เทียบกับสำนักงานเดิมซึ่งมีพื้นที่เพียง 3,000 ตารางฟุต

การเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ 351 Braddell Road ได้ต้อนรับทั้งแขกระดับ VIP นักลงทุน และหุ้นส่วนจากทั่วภูมิภาค&nbsp; โดยมี Mr. Nathan Zeng ประธาน Hai Robotics SEA &amp; ANZ, Mr. Lukas Lai, Regional Sales Director ของ Hai Robotics SEA, และ Mr. Michael Chung กรรมการผู้จัดการ บริษัท <a href="https://acetec.co.th/en/acetec-2/">ACETEC Technology</a>&nbsp; ได้ให้เกียรติร่วมตัดริบบิ้นเปิดงานสำคัญในครั้งนี้ในงานเปิดตัว บริษัท Hai Robotics ได้นำเสนอศูนย์ดีโมล่าเว็บไซต์ล่าสุดของพวกเขาที่แสดงโซลูชันล่าสุดของพวกเขา ซึ่งเรียกว่า HaiPick Systems - ระบบล่าที่เป็นลายเซ็นเจอร์ของ Hai ซึ่งรวมคุณสมบัติของ ACR และ Autonomous Mobile Robot (AMR) เข้าด้วยกันให้เป็นโซลูชันที่สมบูรณ์: ในขณะที่ ACR จัดการถุงเหล็กจากด้านบนไปยังด้านล่างของชั้นวางของ AMR จัดการถุงเหล็กจากด้านล่างของชั้นวางของถึงเครื่องทำงาน ระบบนี้สร้างสรรค์เพิ่มประสิทธิภาพในคลังสินค้าโดยเพิ่มประสิทธิภาพและการใช้พื้นที่จัดเก็บให้มากขึ้นด้วยความหลากหลายและสมบูรณ์ของมัน ระบบ HaiPick ช่วยให้การขยายชั้นวางถึงสามชั้นลึกโดยมีความสูงสูงสุดของการเลือกถุงเหล็กได้สูงสุดถึง 12 เมตรโดยใช้ ACRs ของ HaiPickMr. Michael Chung กรรมการผู้จัดการบริษัท ACETEC Technology Co., Ltd. ที่ประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในฐานะผู้วางระบบบริหารจัดการคลังสินค้า ได้กล่าวว่าการเป็นพันธมิตรกับ Hai Robotics จะมีผลสำคัญในด้านความต้องการที่หลากหลายของตลาดในประเทศ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Hai Robotics ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่เพียงแต่มีองค์ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีระดับสูง แต่ยังรวมถึงการให้ความร่วมมือและการให้การสนับสนุนที่จริงใจและอย่างมืออาชีพจากการได้ร่วมงานกับ Hai Robotics&nbsp; ทาง ACETEC Technology ประสบความสำเร็จในการติดตั้งระบบ HaiPick แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2564 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการรับมือกับความต้องการที่หลากหลาย และการเลือก ใช้ระบบคลังสินค้าในประเทศ &nbsp; ACETEC มีความเชื่อมั่นในการยกระดับโลจิสติกส์คลังสินค้า และยังคงยืนยันความ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก และมีความภูมิใจที่ได้รับการแต่งตั้งให้รับหน้าที่เป็น “ตัวแทนจำหน่ายระบบ Hai Pick ในประเทศไทย”การขยายสำนักงานใหญ่ของ Hai Robotics ที่สิงคโปร์ ส่วนหนึ่งมาจากจุดแข็งของโครงสร้างพื้นฐานในการเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ๆ ในภูมิภาคได้สะดวก ตลอดจนโอกาสในการใช้แรงงานที่มีทักษะอยู่แล้วในพื้นที่ ดังนั้น การขยายสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตใหม่ที่ทันสมัยในครั้งนี้แสดงถึงศักยภาพของ Hai Robotics ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการดำเนินงานด้านระบบคลังสินค้าอย่างแท้จริงMr. Nathan Zeng ประธานบริษัท Hai Robotics SEA และ ANZ กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิม ฉลองโอกาสสำคัญในการเปิดสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตสินค้าแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงาน&nbsp; และกล่าวเพิ่มเติมว่าการเปิดสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตใหม่นี้ ไม่อาจสำเร็จลุล่วงได้หากปราศจากการสนับสนุนที่เราได้รับnและความทุ่มเทของทีมงาน ศูนย์การดำเนินการแห่งใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความใส่ใจที่จะตอบสนองโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และยังเป็นโอกาสให้ Hai Robotics เข้าถึงลูกค้าที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ก่อนหน้านี้&nbsp; Hai Robotics SEA ยืนยันที่จะยึดถือความสำคัญและความสำเร็จของลูกค้าเป็นเป็นปัจจัยหลักในการทำงานต่อไป “ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมฉลองการเปิดตัวครั้งสำคัญของเราในวันนี้”Hai Robotics ตั้งเป้าที่จะก้าวไปไกลกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติการบริหารจัดการ &nbsp; คลังสินค้าทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของ HaiPick เพื่อเพิ่มศักยภาพให้คลังสินค้าและโรงงานทุกแห่ง และขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรื่องของเศรษฐกิจ หลังจากความสำเร็จในการเปิดตัวสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสิงคโปร์&nbsp; Hai Robotics ประสงค์ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำโซลูชันระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมาให้บริการลูกค้า ด้วยการบริหารงานเชิงรุก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์&nbsp; การวิจัยอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นในความสำเร็จของลูกค้า&nbsp; Hai Robotics พร้อมที่จะกระตุ้นวงการโลจิสติกส์เพื่อออกแบบและกำหนดอนาคตของการบริหารจัดการคลังสินค้าทั่วโลก

<img style="width: 100%;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/32fc5c45ef8a8294c4211f9acb63aa9f327d812c4f3eeea995b59ea8ae7d24b5/From%20the%20left%20%5BNathan%20Zeng%2C%20President%2C%20Hai%20Robotics%20SEA%20%26%20ANZ%29%2C%20Michael%20Chung%20%28Managing%20Director%2C%20Acetec%20Technology%20Co.%2C%20Ltd%29%2C%20Wang%20Shenghong%20%28General%20Manager%2C%20BOK%20INTERNATIONAL%20%28HONG%20KONG%29%20CO.%2CLIMITED%29%2C%20VO%20TIEN%20LAM%20%28CEO%2CTHUAN%20THIEN%20PHAT%20P..JPG" alt="From the left [Nathan Zeng, President, Hai Robotics SEA &amp; ANZ), Michael Chung (Managing Director, Acetec Technology Co., Ltd), Wang Shenghong (General Manager, BOK INTERNATIONAL (HONG KONG) CO.,LIMITED), VO TIEN LAM (CEO,THUAN THIEN PHAT P.E.I CO., LTD.), DINH TRUNG HIEN (Representative, ASICO HANDELS GmbH), Lukas Lai (Regional Sales Director, Hai Robotics SEA) Chung Dao (Managing Director, XTS TECHNOLOGIES SDN BHD), Xteven Teoh( Managing Director,XTS TECHNOLOGIES SDN BHD)" />สิงคโปร์ 2 พฤษภาคม 2567 – <a href="https://www.hairobotics.com/">Hai Robotics</a> ผู้ให้บริการระดับโลกกับระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่สำหรับสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง (ACR) ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตสินค้าแห่งล่าสุดอย่างเป็นทางการในพื้นที่กว้างถึง 7,700 ตารางฟุต&nbsp; ที่จัดแสดงหุ่นยนต์ <a href="https://www.hairobotics.com/products/haipick-system-2">HaiPick Systems</a> ไว้อย่างโดดเด่น เทียบกับสำนักงานเดิมซึ่งมีพื้นที่เพียง 3,000 ตารางฟุต<img style="width: 100%;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/e5d8d761023309983b71b4895358c193a12aa9e0845dd550e290497bf3713a52/img_v3_028u_cae39b83-bc24-4b6a-92fc-27aee1db76eg.png" alt="HaiPick ACR conducting product picking" />การเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ 351 Braddell Road ได้ต้อนรับทั้งแขกระดับ VIP นักลงทุน และหุ้นส่วนจากทั่วภูมิภาค&nbsp; โดยมี Mr. Nathan Zeng ประธาน Hai Robotics SEA &amp; ANZ, Mr. Lukas Lai, Regional Sales Director ของ Hai Robotics SEA, และ Mr. Michael Chung กรรมการผู้จัดการ บริษัท <a href="https://acetec.co.th/en/acetec-2/">ACETEC Technology</a>&nbsp; ได้ให้เกียรติร่วมตัดริบบิ้นเปิดงานสำคัญในครั้งนี้ในงานเปิดตัว บริษัท Hai Robotics ได้นำเสนอศูนย์ดีโมล่าเว็บไซต์ล่าสุดของพวกเขาที่แสดงโซลูชันล่าสุดของพวกเขา ซึ่งเรียกว่า HaiPick Systems - ระบบล่าที่เป็นลายเซ็นเจอร์ของ Hai ซึ่งรวมคุณสมบัติของ ACR และ Autonomous Mobile Robot (AMR) เข้าด้วยกันให้เป็นโซลูชันที่สมบูรณ์: ในขณะที่ ACR จัดการถุงเหล็กจากด้านบนไปยังด้านล่างของชั้นวางของ AMR จัดการถุงเหล็กจากด้านล่างของชั้นวางของถึงเครื่องทำงาน ระบบนี้สร้างสรรค์เพิ่มประสิทธิภาพในคลังสินค้าโดยเพิ่มประสิทธิภาพและการใช้พื้นที่จัดเก็บให้มากขึ้นด้วยความหลากหลายและสมบูรณ์ของมัน ระบบ HaiPick ช่วยให้การขยายชั้นวางถึงสามชั้นลึกโดยมีความสูงสูงสุดของการเลือกถุงเหล็กได้สูงสุดถึง 12 เมตรโดยใช้ ACRs ของ HaiPickMr. Michael Chung กรรมการผู้จัดการบริษัท ACETEC Technology Co., Ltd. ที่ประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในฐานะผู้วางระบบบริหารจัดการคลังสินค้า ได้กล่าวว่าการเป็นพันธมิตรกับ Hai Robotics จะมีผลสำคัญในด้านความต้องการที่หลากหลายของตลาดในประเทศ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Hai Robotics ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่เพียงแต่มีองค์ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีระดับสูง แต่ยังรวมถึงการให้ความร่วมมือและการให้การสนับสนุนที่จริงใจและอย่างมืออาชีพจากการได้ร่วมงานกับ Hai Robotics&nbsp; ทาง ACETEC Technology ประสบความสำเร็จในการติดตั้งระบบ HaiPick แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2564 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการรับมือกับความต้องการที่หลากหลาย และการเลือก ใช้ระบบคลังสินค้าในประเทศ &nbsp; ACETEC มีความเชื่อมั่นในการยกระดับโลจิสติกส์คลังสินค้า และยังคงยืนยันความ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก และมีความภูมิใจที่ได้รับการแต่งตั้งให้รับหน้าที่เป็น “ตัวแทนจำหน่ายระบบ Hai Pick ในประเทศไทย”การขยายสำนักงานใหญ่ของ Hai Robotics ที่สิงคโปร์ ส่วนหนึ่งมาจากจุดแข็งของโครงสร้างพื้นฐานในการเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ๆ ในภูมิภาคได้สะดวก ตลอดจนโอกาสในการใช้แรงงานที่มีทักษะอยู่แล้วในพื้นที่ ดังนั้น การขยายสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตใหม่ที่ทันสมัยในครั้งนี้แสดงถึงศักยภาพของ Hai Robotics ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการดำเนินงานด้านระบบคลังสินค้าอย่างแท้จริงMr. Nathan Zeng ประธานบริษัท Hai Robotics SEA และ ANZ กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิม ฉลองโอกาสสำคัญในการเปิดสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตสินค้าแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงาน&nbsp; และกล่าวเพิ่มเติมว่าการเปิดสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตใหม่นี้ ไม่อาจสำเร็จลุล่วงได้หากปราศจากการสนับสนุนที่เราได้รับnและความทุ่มเทของทีมงาน ศูนย์การดำเนินการแห่งใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความใส่ใจที่จะตอบสนองโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และยังเป็นโอกาสให้ Hai Robotics เข้าถึงลูกค้าที่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ก่อนหน้านี้&nbsp; Hai Robotics SEA ยืนยันที่จะยึดถือความสำคัญและความสำเร็จของลูกค้าเป็นเป็นปัจจัยหลักในการทำงานต่อไป “ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมฉลองการเปิดตัวครั้งสำคัญของเราในวันนี้”Hai Robotics ตั้งเป้าที่จะก้าวไปไกลกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติการบริหารจัดการ &nbsp; คลังสินค้าทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของ HaiPick เพื่อเพิ่มศักยภาพให้คลังสินค้าและโรงงานทุกแห่ง และขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรื่องของเศรษฐกิจ หลังจากความสำเร็จในการเปิดตัวสำนักงานใหญ่และศูนย์สาธิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสิงคโปร์&nbsp; Hai Robotics ประสงค์ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำโซลูชันระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมาให้บริการลูกค้า ด้วยการบริหารงานเชิงรุก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์&nbsp; การวิจัยอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นในความสำเร็จของลูกค้า&nbsp; Hai Robotics พร้อมที่จะกระตุ้นวงการโลจิสติกส์เพื่อออกแบบและกำหนดอนาคตของการบริหารจัดการคลังสินค้าทั่วโลก

Logistics / Warehouse / Cargo

Software

  ก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง Hai Robotics และ ACETEC Technology การเปิดสำนักงานใหม่และศูนย์สาธิตสินค้าล้ำสมัยที่สิงคโปร์  โดย Hai Robotics เพื่อการพัฒนาสู่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการใช้หุ่นยนต์ สำหรับระบบคลังสินค้าอัตโนมัติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนในปลายปีนี้ พี่บิ๊กยังบอกมาอีกว่าเตรียมยกความสุขระดับโลกแบบ Very Big มาให้คนไทยในพื้นที่จัดงานไปรษณีย์กลางบางรัก โดยมีน้ำจิ้มรสเด็ด อาทิ POST Gallery 140 เรื่องที่ดีต่อใจ งานแสดง ตราไปรษณียากรโลก 2566 การจัดพื้นที่เพื่อสายทำคอนเทนต์ แสงสีเสียงแบบจัดเต็ม ของสะสมยุคใหม่ ที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน โดยงานนี้จะจัดขึ้นช่วง 27 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2566 เจ็ดวันหนึ่งพันคอนเทนต์มีอยู่จริง ต้องไม่พลาด!!

ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th

เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post

ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel

<h1>จัดใหญ่ไปอีก! พี่บิ๊ก ไปรษณีย์ไทยลุยเนรมิตความสุขแบบ POSTiverse อีเว้นต์ใหญ่ปลายปีนี้ เจอกัน !!!</h1>ทำเรื่องเดิมที่ใหญ่อยู่แล้วให้ใหญ่ขึ้นไปอีกต้องคนนี้ “พี่บิ๊ก ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์” ซีอีโอแห่งไปรษณีย์ไทยที่ไม่นานมานี้เพิ่งประกาศผลกำไรองค์กรที่คัมแบ็ค แถมในวาระครบรอบ 140 ปี ยังได้เห็นความแปลกตาของไปรษณีย์ไทยที่ว้าวสุดๆ ทั้งการแปลงโฉมตู้ไปรษณีย์ให้ออกไปสร้างสีสันกับผู้คนในคอมมูนิตี้ต่างๆ ความเป็นดิจิทัลโพสต์ที่เชื่อมคนไทยให้ส่งสุขถึงกัน ส่วนในปลายปีนี้ พี่บิ๊กยังบอกมาอีกว่าเตรียมยกความสุขระดับโลกแบบ Very Big มาให้คนไทยในพื้นที่จัดงานไปรษณีย์กลางบางรัก โดยมีน้ำจิ้มรสเด็ด อาทิ POST Gallery 140 เรื่องที่ดีต่อใจ งานแสดง ตราไปรษณียากรโลก 2566 การจัดพื้นที่เพื่อสายทำคอนเทนต์ แสงสีเสียงแบบจัดเต็ม ของสะสมยุคใหม่ ที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน โดยงานนี้จะจัดขึ้นช่วง 27 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2566 เจ็ดวันหนึ่งพันคอนเทนต์มีอยู่จริง ต้องไม่พลาด!!ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.thเฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดX : @Thailand_Postไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Postติ๊กต็อก : @thailandpostchannel ปัจจุบัน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำธุรกิจไปรษณีย์และให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของธุรกิจและคนไทยในทุกระดับ ทุกพื้นที่ ด้วยศักยภาพของเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่ง และศูนย์ไปรษณีย์ 13 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค พร้อมด้วยบุคลากรที่ชำนาญงาน ตลอดจนเครื่องมืออันทันสมัย และ การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วทุกมุมโลก

กิจการไปรษณีย์จึงพร้อมเป็นผู้เชื่อมโยงที่ดีที่สุด ด้วยบริการที่มีคุณภาพ ตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างตรงจุดไปรษณีย์ไทย (Thailand Post)
โทร 0 2831 3131
อีเมล postalcare@thailandpost.co.th

Event

ทำเรื่องเดิมที่ใหญ่อยู่แล้วให้ใหญ่ขึ้นไปอีกต้องคนนี้ “พี่บิ๊ก ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์” ซีอีโอแห่งไปรษณีย์ไทยที่ไม่นานมานี้เพิ่งประกาศผลกำไรองค์กรที่คัมแบ็ค แถมในวาระครบรอบ 140 ปี ยังได้เห็นความแปลกตาของไปรษณีย์ไทยที่ว้าวสุดๆ ทั้งการแปลงโฉมตู้ไปรษณีย์ให้ออกไปสร้างสีสันกับผู้คนในคอมมูนิตี้ต่างๆ ความเป็นดิจิทัลโพสต์ที่เชื่อมคนไทยให้ส่งสุขถึงกัน 

จัดใหญ่ไปอีก! พี่บิ๊ก ไปรษณีย์ไทยลุยเนรมิตความสุขแบบ POSTiverse อีเว้นต์ใหญ่ปลายปีนี้ เจอกัน !!!

บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์อีสต์เอเชีย ร่วมกับ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พัฒนาหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา&nbsp;“รับส่งโปร่งใสต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านการบริการขนส่ง”&nbsp;ที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีขนส่งในปัจจุบัน โดยแฟลช เอ็กซ์เพรส ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากร อบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำธุรกรรมการ ซื้อ-ขาย ผ่านระบบออนไลน์, ขั้นตอนการนำฝาก รับส่งพัสดุของระบบการขนส่งในปัจจุบัน รวมถึงรูปแบบวิธีการในการกระทำผิดกฏหมายของคนร้ายและกลุ่มมิจฉาชีพให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสืบสวน ระดับชั้นยศ ร.ต.ท. – พ.ต.อ. เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านการป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายผ่านบริการขนส่ง โดยในปี พ.ศ. 2566 นี้ได้อบรมให้นักเรียนสืบสวนคดีอาญาระดับรองสารวัตร 4 รุ่น คือรุ่นที่ 110 ถึงรุ่นที่ 113 และนักเรียนสืบสวนก้าวไกล ระดับชั้นยศ พ.ต.ต. – พ.ต.อ. อีก 1 รุ่น รวมทั้งสิ้น 5 รุ่น จำนวนกว่า 200 นาย ทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะโฆษกกองบัญชาการศึกษา&nbsp;กล่าวว่า บช.ศ.รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส ในฐานะขนส่งภาคเอกชนได้ตระหนัก และให้ความสำคัญต่อปัญหาอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง เข้ามาร่วมทำหลักสูตร&nbsp;“รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง”&nbsp;เนื่องจากในปัจจุบัน กลุ่มคนร้าย และมิจฉาชีพ ได้ใช้เทคโนโลยี และการบริการขนส่งเป็นช่องทางในการทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำร้านค้าบนแพลตฟอร์มหลอกขายพัสดุฉ้อโกง หรือการแอบอ้าง สวมรอย ปกปิดตัวตนเพื่อขนส่งของผิดกฎหมาย โครงการนี้จึงนับว่าเป็นประโยชน์ต่องานสืบสวนของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก และถือเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่ง บช.ศ.หวังว่าหลักสูตรดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาการกระทำผิดกฎหมาย มิให้กลุ่มมิจฉาชีพอาศัยช่องทางด้านขนส่งพัสดุในการก่ออาชญากรรม ทั้งยังเชื่อว่าองค์ความรู้ดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามสืบสวนหาคนร้ายเพื่อป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป

นางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้อำนวยการแผนกสื่อสารองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจแฟลช&nbsp;กล่าวว่า ที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส ให้การสนับสนุนงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในหลากหลายมิติ ด้วยปัจจุบันธุรกิจขนส่งตกเป็นช่องทางของมิจฉาชีพเพื่อใช้กระทำความผิดในหลากหลายรูปแบบ สร้างทั้งความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้บริการ และส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของผู้ให้บริการขนส่งเป็นอย่างมาก จาก Pain Point ที่เกิดขึ้น แฟลช จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาหลักสูตร “รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง”&nbsp;ขึ้นเป็นปีแรก โดยเนื้อหาหลักสูตรจะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการทำงานของผู้ให้บริการขนส่ง และวิวัฒนาการการทำธุรกิจ Logistics และ E commerce ในประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวน่าจะสร้างประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในด้านการสืบสวน และสอบสวนที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย และเข้าใจภาพรวมของธุรกิจขนส่งได้ดีมากยิ่งขึ้น

<h1>กองบัญชาการศึกษา ตร.ร่วมกับ Flash Express พัฒนาหลักสูตรสืบสวน</h1>กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ แฟลช เอ็กซ์เพรส พัฒนาหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา “รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง” ถ่ายทอดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสืบสวนทั่วประเทศบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์อีสต์เอเชีย ร่วมกับ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พัฒนาหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา&nbsp;“รับส่งโปร่งใสต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านการบริการขนส่ง”&nbsp;ที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีขนส่งในปัจจุบัน โดยแฟลช เอ็กซ์เพรส ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากร อบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำธุรกรรมการ ซื้อ-ขาย ผ่านระบบออนไลน์, ขั้นตอนการนำฝาก รับส่งพัสดุของระบบการขนส่งในปัจจุบัน รวมถึงรูปแบบวิธีการในการกระทำผิดกฏหมายของคนร้ายและกลุ่มมิจฉาชีพให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสืบสวน ระดับชั้นยศ ร.ต.ท. – พ.ต.อ. เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านการป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายผ่านบริการขนส่ง โดยในปี พ.ศ. 2566 นี้ได้อบรมให้นักเรียนสืบสวนคดีอาญาระดับรองสารวัตร 4 รุ่น คือรุ่นที่ 110 ถึงรุ่นที่ 113 และนักเรียนสืบสวนก้าวไกล ระดับชั้นยศ พ.ต.ต. – พ.ต.อ. อีก 1 รุ่น รวมทั้งสิ้น 5 รุ่น จำนวนกว่า 200 นาย ทั่วประเทศ<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/84fa4f3c15e8d3c6b098f80ea71aecbd8b78e9e1d9dbbbf75c694cf4ac1501f4/flash2.jpeg" alt="Image"/>พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะโฆษกกองบัญชาการศึกษา&nbsp;กล่าวว่า บช.ศ.รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส ในฐานะขนส่งภาคเอกชนได้ตระหนัก และให้ความสำคัญต่อปัญหาอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง เข้ามาร่วมทำหลักสูตร&nbsp;“รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง”&nbsp;เนื่องจากในปัจจุบัน กลุ่มคนร้าย และมิจฉาชีพ ได้ใช้เทคโนโลยี และการบริการขนส่งเป็นช่องทางในการทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำร้านค้าบนแพลตฟอร์มหลอกขายพัสดุฉ้อโกง หรือการแอบอ้าง สวมรอย ปกปิดตัวตนเพื่อขนส่งของผิดกฎหมาย โครงการนี้จึงนับว่าเป็นประโยชน์ต่องานสืบสวนของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก และถือเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่ง บช.ศ.หวังว่าหลักสูตรดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาการกระทำผิดกฎหมาย มิให้กลุ่มมิจฉาชีพอาศัยช่องทางด้านขนส่งพัสดุในการก่ออาชญากรรม ทั้งยังเชื่อว่าองค์ความรู้ดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามสืบสวนหาคนร้ายเพื่อป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไปนางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้อำนวยการแผนกสื่อสารองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจแฟลช&nbsp;กล่าวว่า ที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส ให้การสนับสนุนงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในหลากหลายมิติ ด้วยปัจจุบันธุรกิจขนส่งตกเป็นช่องทางของมิจฉาชีพเพื่อใช้กระทำความผิดในหลากหลายรูปแบบ สร้างทั้งความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้บริการ และส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของผู้ให้บริการขนส่งเป็นอย่างมาก จาก Pain Point ที่เกิดขึ้น แฟลช จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาหลักสูตร “รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง”&nbsp;ขึ้นเป็นปีแรก โดยเนื้อหาหลักสูตรจะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการทำงานของผู้ให้บริการขนส่ง และวิวัฒนาการการทำธุรกิจ Logistics และ E commerce ในประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวน่าจะสร้างประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในด้านการสืบสวน และสอบสวนที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย และเข้าใจภาพรวมของธุรกิจขนส่งได้ดีมากยิ่งขึ้นบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) คือ ผู้ให้บริการด้าน E-commerce แบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ “คิดถึง ส่งถึง In mind In delivery” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2560 โดยนายคมสันต์ แซ่ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วยทีมผู้บริหาร และบุคลากรไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 10,000 คน พร้อมบริการที่ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ และมีจุดรับส่งพัสดุมากกว่า 2,500 แห่ง เรายังเป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกที่มีนโยบายเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก พร้อมเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ปัจจุบันตัวเลขการส่งพัสดุของบริษัทฯ มีมากกว่า 1 ล้าน ชิ้นต่อวัน นอกจากบริการด้านขนส่งแบบมืออาชีพ เรายังมีโปรแกรมการคุ้มครองสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งในกรณีพัสดุเกิดความเสียหาย และสูญหาย ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงถึง 50,000 บาท (ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ) เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางใจในการใช้บริการของเรา นอกจากนี้เรายังมีบริการ

โดยภายใต้ธุรกิจของ แฟลช (Flash Group) นอกจากการให้บริการด้านขนส่งด่วน (Flash Express) แล้ว เรายังมีบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุมสู่การเป็นผู้ให้บริการด้าน E-Commerce แบบครบวงจร เช่น บริการด้านโลจิสติกส์ (Flash Logistics) ที่ให้บริการรับส่งสินค้าขนาดใหญ่, บริการการด้านคลังสินค้า (Flash Fulfillment) ดูแลจัดเก็บสินค้า และ บริการด้านการเงิน (Flash Money)Flash Express
โทร 1436
อีเมลฝ่ายบริการลูกค้า: allcs@flashexpress.com
อีเมลสำหรับลูกค้าธุรกิจ: bbd@flashexpress.com

Cram school / Preparatory school / Online education

E-commerce

Politics / Government / Local government

กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ แฟลช เอ็กซ์เพรส พัฒนาหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา “รับส่งโปร่งใส ต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายผ่านบริการขนส่ง” ถ่ายทอดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานสืบสวนทั่วประเทศ

กองบัญชาการศึกษา ตร.ร่วมกับ Flash Express พัฒนาหลักสูตรสืบสวน

บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด&nbsp;ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย&nbsp;ประกาศเปิดจุดให้บริการรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) ภายใต้แบรนด์ ‘Fuze Post’ ได้แล้ววันนี้ นำร่อง 9 สาขา ได้แก่&nbsp;สาขาตลาดไอยรา&nbsp;,สาขาตลาดมหาชัย&nbsp;,สาขาตลาดอำเภอเมืองนครปฐม&nbsp;,สาขาวังหลัง&nbsp;,สาขาท่าข้าม&nbsp;,สาขาบางใหญ่&nbsp;,สาขาตลาดสี่มุมเมือง&nbsp;,สาขาแยกไฟฉาย และสาขาตลาดมีนบุรี&nbsp;นอกจากนี้เตรียมขยายเปิดสาขาเพิ่มเป็น 50 สาขาภายในสิ้นปีนี้&nbsp;พร้อมฉลองจัดโปรโมทชั่นทุก&nbsp;Double Day&nbsp;ลดราคาค่าบริการสูงสุดถึง&nbsp;15%&nbsp;ในราคาค่าบริการเริ่มต้นเพียง&nbsp;120&nbsp;บาทเท่านั้น ถือเป็นราคาคุ้มค่าที่สุดด้วยบริการที่ดีที่สุดในตลาดผู้ให้บริการรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ

ทั้งนี้ Fuze Post รับฝากขนส่งสินค้าทั้งแบบสินค้าส่งแบบแช่เย็น&nbsp;(Chill) อุณหภูมิ 0 -8 องศา และสินค้าแบบแช่แข็ง&nbsp;(Frozen) อุณหภูมิ 0 -15 องศา โดยสินค้าที่สามารถใช้บริการรับฝากส่ง ได้แก่&nbsp;อาหารทะเลสด/แช่แข็ง ,เนื้อสด/เนื้อสัตว์แปรรูป/เนื้อสัตว์แช่แข็ง ,เครื่องดื่มบรรจุขวด ,ไอศครีม ,ผัก/ผลไม้พร้อมทาน ,เบเกอรี่แช่แข็ง ,อาหารที่มีกลิ่น ,อาหารกล่องพร้อมทาน เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไม่รับฝากส่ง ได้แก่ สินค้าประเภทเน่าเสียแปรสภาพง่าย เช่น โยเกิร์ต ไอศครีม ขนมเค็ก ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่&nbsp;<a href="http://www.fuzepost.co.th/" target="_blank">www.fuzepost.co.th</a>&nbsp;และติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์&nbsp;Call Center : 02-055-6787 Inbox Facebook : Fuzepost Line Official : @Fuzepost&nbsp;เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา&nbsp;9.00-18.00&nbsp;หรือ&nbsp;www.facebook.com/FlashExpressThailand

สำหรับ Fuze Post&nbsp;เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรผู้นำด้านการขนส่ง ระหว่างบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นการนำเอาศักยภาพของผู้นำทั้ง&nbsp;3&nbsp;บริษัทเข้ามาพัฒนาการให้บริการเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการหรือผู้ใช้บริการในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

<h1>ส่ง “Fuze Post” ผ่าน แฟลช เอ็กซ์เพรส ได้แล้ววันนี้ !</h1>ส่ง “Fuze Post” ผ่าน แฟลช เอ็กซ์เพรส ได้แล้ววันนี้ ! พร้อมฉลองจัดโปร Double Day ลดสูงสุด 15% แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศเปิดจุดรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิภายใต้แบรนด์ ‘Fuze Post’ ได้แล้ววันนี้ 9 สาขา พร้อมอัดโปรโมชั่น Double Day ลดสูงสุด 15% ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดด้วยบริการที่ดีที่สุดในตลาดขนส่งเย็น เตรียมขยายจุดรับฝากเพิ่มกว่า 50 สาขาทั่วประเทศบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด&nbsp;ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย&nbsp;ประกาศเปิดจุดให้บริการรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) ภายใต้แบรนด์ ‘Fuze Post’ ได้แล้ววันนี้ นำร่อง 9 สาขา ได้แก่&nbsp;สาขาตลาดไอยรา&nbsp;,สาขาตลาดมหาชัย&nbsp;,สาขาตลาดอำเภอเมืองนครปฐม&nbsp;,สาขาวังหลัง&nbsp;,สาขาท่าข้าม&nbsp;,สาขาบางใหญ่&nbsp;,สาขาตลาดสี่มุมเมือง&nbsp;,สาขาแยกไฟฉาย และสาขาตลาดมีนบุรี&nbsp;นอกจากนี้เตรียมขยายเปิดสาขาเพิ่มเป็น 50 สาขาภายในสิ้นปีนี้&nbsp;พร้อมฉลองจัดโปรโมทชั่นทุก&nbsp;Double Day&nbsp;ลดราคาค่าบริการสูงสุดถึง&nbsp;15%&nbsp;ในราคาค่าบริการเริ่มต้นเพียง&nbsp;120&nbsp;บาทเท่านั้น ถือเป็นราคาคุ้มค่าที่สุดด้วยบริการที่ดีที่สุดในตลาดผู้ให้บริการรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิทั้งนี้ Fuze Post รับฝากขนส่งสินค้าทั้งแบบสินค้าส่งแบบแช่เย็น&nbsp;(Chill) อุณหภูมิ 0 -8 องศา และสินค้าแบบแช่แข็ง&nbsp;(Frozen) อุณหภูมิ 0 -15 องศา โดยสินค้าที่สามารถใช้บริการรับฝากส่ง ได้แก่&nbsp;อาหารทะเลสด/แช่แข็ง ,เนื้อสด/เนื้อสัตว์แปรรูป/เนื้อสัตว์แช่แข็ง ,เครื่องดื่มบรรจุขวด ,ไอศครีม ,ผัก/ผลไม้พร้อมทาน ,เบเกอรี่แช่แข็ง ,อาหารที่มีกลิ่น ,อาหารกล่องพร้อมทาน เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไม่รับฝากส่ง ได้แก่ สินค้าประเภทเน่าเสียแปรสภาพง่าย เช่น โยเกิร์ต ไอศครีม ขนมเค็ก ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่&nbsp;<a href="http://www.fuzepost.co.th/" target="_blank">www.fuzepost.co.th</a>&nbsp;และติดต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์&nbsp;Call Center : 02-055-6787 Inbox Facebook : Fuzepost Line Official : @Fuzepost&nbsp;เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา&nbsp;9.00-18.00&nbsp;หรือ&nbsp;www.facebook.com/FlashExpressThailandสำหรับ Fuze Post&nbsp;เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรผู้นำด้านการขนส่ง ระหว่างบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นการนำเอาศักยภาพของผู้นำทั้ง&nbsp;3&nbsp;บริษัทเข้ามาพัฒนาการให้บริการเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการหรือผู้ใช้บริการในปัจจุบันให้ได้มากที่สุดบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) คือ ผู้ให้บริการด้าน E-commerce แบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ “คิดถึง ส่งถึง In mind In delivery” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2560 โดยนายคมสันต์ แซ่ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วยทีมผู้บริหาร และบุคลากรไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 10,000 คน พร้อมบริการที่ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ และมีจุดรับส่งพัสดุมากกว่า 2,500 แห่ง เรายังเป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกที่มีนโยบายเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก พร้อมเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ปัจจุบันตัวเลขการส่งพัสดุของบริษัทฯ มีมากกว่า 1 ล้าน ชิ้นต่อวัน นอกจากบริการด้านขนส่งแบบมืออาชีพ เรายังมีโปรแกรมการคุ้มครองสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งในกรณีพัสดุเกิดความเสียหาย และสูญหาย ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงถึง 50,000 บาท (ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ) เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางใจในการใช้บริการของเรา นอกจากนี้เรายังมีบริการ

โดยภายใต้ธุรกิจของ แฟลช (Flash Group) นอกจากการให้บริการด้านขนส่งด่วน (Flash Express) แล้ว เรายังมีบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุมสู่การเป็นผู้ให้บริการด้าน E-Commerce แบบครบวงจร เช่น บริการด้านโลจิสติกส์ (Flash Logistics) ที่ให้บริการรับส่งสินค้าขนาดใหญ่, บริการการด้านคลังสินค้า (Flash Fulfillment) ดูแลจัดเก็บสินค้า และ บริการด้านการเงิน (Flash Money)Flash Express
โทร 1436
อีเมลฝ่ายบริการลูกค้า: allcs@flashexpress.com
อีเมลสำหรับลูกค้าธุรกิจ: bbd@flashexpress.com

Eating at home / Delivery

Goods and services

ส่ง “Fuze Post” ผ่าน แฟลช เอ็กซ์เพรส ได้แล้ววันนี้ ! พร้อมฉลองจัดโปร Double Day ลดสูงสุด 15% แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศเปิดจุดรับฝากขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิภายใต้แบรนด์ ‘Fuze Post’ ได้แล้ววันนี้ 9 สาขา พร้อมอัดโปรโมชั่น Double Day ลดสูงสุด 15% ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดด้วยบริการที่ดีที่สุดในตลาดขนส่งเย็น เตรียมขยายจุดรับฝากเพิ่มกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ

ส่ง “Fuze Post” ผ่าน แฟลช เอ็กซ์เพรส ได้แล้ววันนี้ !

นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย&nbsp;กล่าวว่า จากเทรนด์การใช้บริการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ในตลาดขนส่งที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค ซึ่งแฟลช นอกจากมีบริการขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่ (Flash bulky) และการเป็นผู้นำด้านขนส่งมืออาชีพในตลาดแล้ว ล่าสุดได้ผนึกกำลังกับอินเด็กซ์ ลิฟวิ่มอลล์ คลอดแบรนด์ใหม่&nbsp;“BULK BULK”&nbsp;(เบา เบา) ผู้ให้บริการขนส่ง และประกอบ-ติดตั้ง เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าขนาดใหญ่ครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce โดยชูคอนเซปต์&nbsp;“หนักแค่ไหน ก็เบาได้ ด้วย… เบา เบา”&nbsp;เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครบวงจรมากขึ้นไม่ใช่แค่เพียงผู้ให้บริการขนส่งเพียงอย่างเดียว

“ด้วยศักยภาพการเป็นผู้นำด้านบริการขนส่งของแฟลช ผนึกกำลังกับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านครบวงจร จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า และผู้บริโภค ตั้งแต่การขนส่งที่มีประสิทธิภาพถึงมือผู้รับปลายทางอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ปลอดภัยตรงเวลา และการประกอบ-ติดตั้งอย่างมืออาชีพในราคาที่คุ้มค่าที่สุด”

ด้าน&nbsp;นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;ILM&nbsp;ผู้นำด้านธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเคียงคู่คนไทยมากว่า 50 ปี ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านแบบครบวงจร ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน รวมถึงบริการต่างๆ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการช้อปสินค้าของผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนไป โดยหันมาช้อปออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงสินค้าขนาดใหญ่ประเภทเฟอร์นิเจอร์ โอกาสนี้เองเราจึงได้ไอเดียการต่อยอดบริการเพื่อเอื้อต่อความสะดวกสบายให้กับลูกค้าล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทฯ

โดยการร่วมทุนรูปแบบ&nbsp;Joint Venture&nbsp;กับ Flash Express เปิดแบรนด์ใหม่&nbsp;“BULK BULK”&nbsp;ให้บริการด้านการขนส่งพร้อมประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสินค้าขนาดใหญ่ครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อให้สามารถเติบโตควบคู่กับธุรกิจออนไลน์ปัจจุบัน และรองรับเทรนด์การแข่งขันในอนาคต อีกทั้งนี้ยังได้มองโอกาสในการขยายธุรกิจที่มีความ Synergy กับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ&nbsp;โดยใช้จุดแข็งของแต่ละธุรกิจที่เรามีและช่องทางการทำตลาด โดยเชื่อมั่นว่าแบรนด์ “BULK BULK” จะเข้ามารองรับกลุ่มลูกค้า B2B, Corporate Enterprises, OEM Manufacturers เป็นต้น ขณะนี้ BULK BULK มีลูกค้าจาก Corporate รายใหญ่หลายรายที่สนใจ พร้อมกับตอบรับในการใช้บริการแล้ว ซึ่งในเฟสแรกจะเปิดให้บริการพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลก่อน โดยจะขนส่ง ประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆไปประเภท ตู้ เตียง โต๊ะ โซฟา ฯลฯ ในอนาคตจะขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่เก้าอี้นวด, เครื่องออกกำลังกาย, และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น จากนั้นเตรียมขยายไปสู่ภูมิภาคต่างๆ อย่างหัวเมืองหลักที่มีศักยภาพ และขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้เพื่อรองรับผู้ประกอบการทั้งตลาดเฟอร์นิเจอร์ในไทย และแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้จากแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีแรกภายในประเทศที่กลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่ม expat ที่กลับเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ส่งผลช่วยเสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค และช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศให้กลับมาเติบโตได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ด้าน&nbsp;นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;เผยว่า “แบรนด์ Bulk Bulk ถือเป็นอีกก้าวของการผสานความแข็งแกร่งของ 2 ธุรกิจ เข้าด้วยกันอย่างลงตัวระหว่าง&nbsp;ILM ที่มีจุดแข็งด้าน Installation&nbsp;(ประกอบ-ติดตั้งเฟอร์ฯ) และ&nbsp;Flash Express ที่ยืน 1 ด้าน Parcel (การขนส่ง) และยังมีโครงข่ายครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย นอกจากจะขยายบริการให้ตอบโจทย์ความครบครันให้ลูกค้าแล้ว&nbsp;ยังช่วยแก้ Pain point ของลูกค้าส่วนใหญ่ที่ช้อปสินค้าชิ้นใหญ่แล้วไม่สามารถประกอบ-ติดตั้งเองได้ ซึ่งจากนี้ไปปัญหาหนักใจของลูกค้าจะกลายเป็นเรื่อง “เบา เบา” ด้วยบริการ Bulk Bulk&nbsp;นอกจากการบริการที่ครบลูปทั้งขนส่ง-ประกอบ-ติดตั้ง ที่จะมาเติมเต็มความต้องการให้ลูกค้าแล้ว สิ่งสำคัญของแบรนด์ Bulk Bulk&nbsp;คือการทำ Economies of scale (การสร้างเน็ตเวิร์ค) ให้ใหญ่เพียงพอ เมื่อเรามีเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ แล้ว ควบคู่การมีฐานลูกค้าที่มากขึ้น ส่งผลให้การขนส่งเต็มคันรถ

ก็จะมีรอบจัดส่งที่รวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่รวดเร็วทันใจ มีประสิทธิภาพสูงสุด นี่ก็คือคีย์หลักที่จะทำให้แบรนด์ Bulk Bulk&nbsp;เราเติบโตอย่างยั่งยืน”

&nbsp; สำหรับ&nbsp;BULK BULK&nbsp;ถือเป็นผู้ให้บริการขนส่ง ประกอบ-ติดตั้ง เฟอร์นิเจอร์และสินค้าขนาดใหญ่ ครบวงจร ที่นำเอาศักยภาพของทั้ง 2 บริษัทมาเป็นจุดแข็งในเรื่องการให้บริการจัดส่งแบบเร่งด่วนตรงเวลา อย่างมืออาชีพ พร้อมบริการ 365 วันไม่มีวันหยุด, พนักงานประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ระดับมืออาชีพที่ผ่านการอบรมมาแล้วมากกว่า 4 สัปดาห์ ผ่านการรับรองฝีมือแรงงาน จากกรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ,ให้บริการครอบคลุมด้วยเครือข่ายการจัดส่งทั่วไทย, ลูกค้าสามารถเช็คข้อมูลด้วยระบบการติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ และการนำเอาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลผ่านโปรแกรม API พร้อมรับประกันคุณภาพการบริการ และการดูแลหลังการขายผ่านCall Center 02-417-1111 ติดต่อช่องทาง Online Add Line Official Account : @bulkbulk&nbsp;<a href="https://lin.ee/HIl3vCN">https://lin.ee/HIl3vCN</a>&nbsp;หรือสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่&nbsp;<a href="https://bit.ly/3rxZDDe" target="_blank">https://bit.ly/3rxZDDe</a>

<h1>“Flash Express” จับมือ “Index Living Mall”</h1>ปั้นแบรนด์ “BULK BULK” ตั้งเป้าสู่ No.1 ตลาดขนส่ง และติดตั้งภายในสิ้นปีนี้

Flash Express ผนึก Index Living Mall คลอดแบรนด์ใหม่ “BULK BULK” ผู้ให้บริการขนส่ง ประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าขนาดใหญ่แบบครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ชูคอนเซปต์ “หนักแค่ไหน ก็เบาได้ ด้วย… เบา เบา” ตั้งเป้าพาแบรนด์สู่ No.1 ตลาดขนส่งและติดตั้งภายในสิ้นปีนี้นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย&nbsp;กล่าวว่า จากเทรนด์การใช้บริการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ในตลาดขนส่งที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค ซึ่งแฟลช นอกจากมีบริการขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่ (Flash bulky) และการเป็นผู้นำด้านขนส่งมืออาชีพในตลาดแล้ว ล่าสุดได้ผนึกกำลังกับอินเด็กซ์ ลิฟวิ่มอลล์ คลอดแบรนด์ใหม่&nbsp;“BULK BULK”&nbsp;(เบา เบา) ผู้ให้บริการขนส่ง และประกอบ-ติดตั้ง เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าขนาดใหญ่ครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce โดยชูคอนเซปต์&nbsp;“หนักแค่ไหน ก็เบาได้ ด้วย… เบา เบา”&nbsp;เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครบวงจรมากขึ้นไม่ใช่แค่เพียงผู้ให้บริการขนส่งเพียงอย่างเดียว“ด้วยศักยภาพการเป็นผู้นำด้านบริการขนส่งของแฟลช ผนึกกำลังกับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านครบวงจร จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า และผู้บริโภค ตั้งแต่การขนส่งที่มีประสิทธิภาพถึงมือผู้รับปลายทางอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ปลอดภัยตรงเวลา และการประกอบ-ติดตั้งอย่างมืออาชีพในราคาที่คุ้มค่าที่สุด”<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/ea79faa6b4c8e900ff1378167932e31695fa54180b7ea7dacb5cb7fa5e04871c/bulk2.jpg" alt="Image"/>ด้าน&nbsp;นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;ILM&nbsp;ผู้นำด้านธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเคียงคู่คนไทยมากว่า 50 ปี ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านแบบครบวงจร ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน รวมถึงบริการต่างๆ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการช้อปสินค้าของผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนไป โดยหันมาช้อปออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงสินค้าขนาดใหญ่ประเภทเฟอร์นิเจอร์ โอกาสนี้เองเราจึงได้ไอเดียการต่อยอดบริการเพื่อเอื้อต่อความสะดวกสบายให้กับลูกค้าล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทฯโดยการร่วมทุนรูปแบบ&nbsp;Joint Venture&nbsp;กับ Flash Express เปิดแบรนด์ใหม่&nbsp;“BULK BULK”&nbsp;ให้บริการด้านการขนส่งพร้อมประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสินค้าขนาดใหญ่ครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อให้สามารถเติบโตควบคู่กับธุรกิจออนไลน์ปัจจุบัน และรองรับเทรนด์การแข่งขันในอนาคต อีกทั้งนี้ยังได้มองโอกาสในการขยายธุรกิจที่มีความ Synergy กับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ&nbsp;โดยใช้จุดแข็งของแต่ละธุรกิจที่เรามีและช่องทางการทำตลาด โดยเชื่อมั่นว่าแบรนด์ “BULK BULK” จะเข้ามารองรับกลุ่มลูกค้า B2B, Corporate Enterprises, OEM Manufacturers เป็นต้น ขณะนี้ BULK BULK มีลูกค้าจาก Corporate รายใหญ่หลายรายที่สนใจ พร้อมกับตอบรับในการใช้บริการแล้ว ซึ่งในเฟสแรกจะเปิดให้บริการพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลก่อน โดยจะขนส่ง ประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆไปประเภท ตู้ เตียง โต๊ะ โซฟา ฯลฯ ในอนาคตจะขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่เก้าอี้นวด, เครื่องออกกำลังกาย, และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น จากนั้นเตรียมขยายไปสู่ภูมิภาคต่างๆ อย่างหัวเมืองหลักที่มีศักยภาพ และขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้เพื่อรองรับผู้ประกอบการทั้งตลาดเฟอร์นิเจอร์ในไทย และแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้จากแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีแรกภายในประเทศที่กลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่ม expat ที่กลับเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ส่งผลช่วยเสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค และช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศให้กลับมาเติบโตได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”ด้าน&nbsp;นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;เผยว่า “แบรนด์ Bulk Bulk ถือเป็นอีกก้าวของการผสานความแข็งแกร่งของ 2 ธุรกิจ เข้าด้วยกันอย่างลงตัวระหว่าง&nbsp;ILM ที่มีจุดแข็งด้าน Installation&nbsp;(ประกอบ-ติดตั้งเฟอร์ฯ) และ&nbsp;Flash Express ที่ยืน 1 ด้าน Parcel (การขนส่ง) และยังมีโครงข่ายครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย นอกจากจะขยายบริการให้ตอบโจทย์ความครบครันให้ลูกค้าแล้ว&nbsp;ยังช่วยแก้ Pain point ของลูกค้าส่วนใหญ่ที่ช้อปสินค้าชิ้นใหญ่แล้วไม่สามารถประกอบ-ติดตั้งเองได้ ซึ่งจากนี้ไปปัญหาหนักใจของลูกค้าจะกลายเป็นเรื่อง “เบา เบา” ด้วยบริการ Bulk Bulk&nbsp;นอกจากการบริการที่ครบลูปทั้งขนส่ง-ประกอบ-ติดตั้ง ที่จะมาเติมเต็มความต้องการให้ลูกค้าแล้ว สิ่งสำคัญของแบรนด์ Bulk Bulk&nbsp;คือการทำ Economies of scale (การสร้างเน็ตเวิร์ค) ให้ใหญ่เพียงพอ เมื่อเรามีเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ แล้ว ควบคู่การมีฐานลูกค้าที่มากขึ้น ส่งผลให้การขนส่งเต็มคันรถก็จะมีรอบจัดส่งที่รวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่รวดเร็วทันใจ มีประสิทธิภาพสูงสุด นี่ก็คือคีย์หลักที่จะทำให้แบรนด์ Bulk Bulk&nbsp;เราเติบโตอย่างยั่งยืน”<img style="max-width:100%;height:auto;" src="https://vritimes-public.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/production/9b9e80a6591f211fc3ed7a8066193bda0d326b3b7c7c56f71e982528764bea7e/bulk3.jpg" alt="Image"/>&nbsp; สำหรับ&nbsp;BULK BULK&nbsp;ถือเป็นผู้ให้บริการขนส่ง ประกอบ-ติดตั้ง เฟอร์นิเจอร์และสินค้าขนาดใหญ่ ครบวงจร ที่นำเอาศักยภาพของทั้ง 2 บริษัทมาเป็นจุดแข็งในเรื่องการให้บริการจัดส่งแบบเร่งด่วนตรงเวลา อย่างมืออาชีพ พร้อมบริการ 365 วันไม่มีวันหยุด, พนักงานประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ระดับมืออาชีพที่ผ่านการอบรมมาแล้วมากกว่า 4 สัปดาห์ ผ่านการรับรองฝีมือแรงงาน จากกรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ,ให้บริการครอบคลุมด้วยเครือข่ายการจัดส่งทั่วไทย, ลูกค้าสามารถเช็คข้อมูลด้วยระบบการติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ และการนำเอาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลผ่านโปรแกรม API พร้อมรับประกันคุณภาพการบริการ และการดูแลหลังการขายผ่านCall Center 02-417-1111 ติดต่อช่องทาง Online Add Line Official Account : @bulkbulk&nbsp;<a href="https://lin.ee/HIl3vCN">https://lin.ee/HIl3vCN</a>&nbsp;หรือสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่&nbsp;<a href="https://bit.ly/3rxZDDe" target="_blank">https://bit.ly/3rxZDDe</a>บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) คือ ผู้ให้บริการด้าน E-commerce แบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ “คิดถึง ส่งถึง In mind In delivery” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2560 โดยนายคมสันต์ แซ่ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วยทีมผู้บริหาร และบุคลากรไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 10,000 คน พร้อมบริการที่ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ และมีจุดรับส่งพัสดุมากกว่า 2,500 แห่ง เรายังเป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกที่มีนโยบายเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก พร้อมเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ปัจจุบันตัวเลขการส่งพัสดุของบริษัทฯ มีมากกว่า 1 ล้าน ชิ้นต่อวัน นอกจากบริการด้านขนส่งแบบมืออาชีพ เรายังมีโปรแกรมการคุ้มครองสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งในกรณีพัสดุเกิดความเสียหาย และสูญหาย ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงถึง 50,000 บาท (ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ) เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางใจในการใช้บริการของเรา นอกจากนี้เรายังมีบริการ

โดยภายใต้ธุรกิจของ แฟลช (Flash Group) นอกจากการให้บริการด้านขนส่งด่วน (Flash Express) แล้ว เรายังมีบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุมสู่การเป็นผู้ให้บริการด้าน E-Commerce แบบครบวงจร เช่น บริการด้านโลจิสติกส์ (Flash Logistics) ที่ให้บริการรับส่งสินค้าขนาดใหญ่, บริการการด้านคลังสินค้า (Flash Fulfillment) ดูแลจัดเก็บสินค้า และ บริการด้านการเงิน (Flash Money)Flash Express
โทร 1436
อีเมลฝ่ายบริการลูกค้า: allcs@flashexpress.com
อีเมลสำหรับลูกค้าธุรกิจ: bbd@flashexpress.com

ปั้นแบรนด์ “BULK BULK” ตั้งเป้าสู่ No.1 ตลาดขนส่ง และติดตั้งภายในสิ้นปีนี้

Flash Express ผนึก Index Living Mall คลอดแบรนด์ใหม่ “BULK BULK” ผู้ให้บริการขนส่ง ประกอบ-ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าขนาดใหญ่แบบครบวงจร เต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ชูคอนเซปต์ “หนักแค่ไหน ก็เบาได้ ด้วย… เบา เบา” ตั้งเป้าพาแบรนด์สู่ No.1 ตลาดขนส่งและติดตั้งภายในสิ้นปีนี้

“Flash Express” จับมือ “Index Living Mall”

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)&nbsp;กระทรวงคมนาคม ขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษสำหรับรถรับ – ส่ง (Shuttle Bus)&nbsp;ระหว่างสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษหัวลำโพง และด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษย่านพหลโยธิน จำนวนเที่ยววิ่ง 88 เที่ยวต่อวัน ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2567 คิดเป็นค่าผ่านทางพิเศษ 1,188,000 บาท เพื่อเป็นการบริการ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ยกเว้นค่าผ่านทางจำนวน 88 เที่ยวต่อวัน มาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 รวมเป็นค่าผ่านทางพิเศษ 2,376,000 บาท&nbsp;&nbsp;

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางในวันหยุดประจำปี และช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ที่มีวันหยุดยาว คิดเป็นมูลค่า มากกว่า 4,389 ล้านบาท โดย กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลมาตั้งแต่ปี 2553 ของทางพิเศษบูรพาวิถี และปี 2562 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวมทั้งเริ่มยกเว้นค่าผ่านทาง 3 สายทางในวันหยุดประจำปีตั้งแต่ปี 2563

<h1>กทพ.ขยายระยะเวลายกเว้นค่าผ่านทางฯ รถ Shuttle Bus ถึงต้นปี 2566 </h1>กทพ. ขยายระยะเวลายกเว้นค่าผ่านทางฯ สำหรับรถ Shuttle Bus ระหว่างสถานีกรุงเทพฯ ถึง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกไปถึงต้นปี 2567 คิดเป็นรายได้ค่าผ่านทางมากกว่า 1 ล้านบาทการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)&nbsp;กระทรวงคมนาคม ขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษสำหรับรถรับ – ส่ง (Shuttle Bus)&nbsp;ระหว่างสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษหัวลำโพง และด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษย่านพหลโยธิน จำนวนเที่ยววิ่ง 88 เที่ยวต่อวัน ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2567 คิดเป็นค่าผ่านทางพิเศษ 1,188,000 บาท เพื่อเป็นการบริการ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ยกเว้นค่าผ่านทางจำนวน 88 เที่ยวต่อวัน มาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 รวมเป็นค่าผ่านทางพิเศษ 2,376,000 บาท&nbsp;&nbsp;ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางในวันหยุดประจำปี และช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ที่มีวันหยุดยาว คิดเป็นมูลค่า มากกว่า 4,389 ล้านบาท โดย กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลมาตั้งแต่ปี 2553 ของทางพิเศษบูรพาวิถี และปี 2562 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวมทั้งเริ่มยกเว้นค่าผ่านทาง 3 สายทางในวันหยุดประจำปีตั้งแต่ปี 2563การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๙๐ ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ และต่อมาได้มีการปรับปรุงกฎหมาย โดยการประกาศใช้บังคับพระราช-บัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบันนี้ กทพ. มีอำนาจหน้าที่กระทำกิจการภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ในสาระสำคัญ ดังนี้
๑.) สร้างหรือจัดให้มีทางพิเศษด้วยวิธีใด ๆ ตลอดจนบำรุงและรักษาทางพิเศษ
๒.) ดำเนินงานหรือธุรกิจเกี่ยวกับทางพิเศษและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับทางพิเศษหรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทพ.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
โทร 0-2558-9800
อีเมล์ saraban@exat.co.th

Government offices / organizations

กทพ. ขยายระยะเวลายกเว้นค่าผ่านทางฯ สำหรับรถ Shuttle Bus ระหว่างสถานีกรุงเทพฯ ถึง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกไปถึงต้นปี 2567 คิดเป็นรายได้ค่าผ่านทางมากกว่า 1 ล้านบาท